เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 16:00 น ได้มี พ่อแม่ ของเด็กเมียนมาร์คนนึงได้ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้ เคียงให้ช่วยลูกที่ตกไป ในหลุมขุดเจาะท่อบาดาลของไร่มันสำปะหลังเนื่องจากว่าทางคุณพ่อและคุณแม่ของน้องเด็กหญิงวัย 6 ขวบเศษไปทำงานคุณมันสำปะหลัง

ที่สวนแห่งหนึ่งใน อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และได้พาลูกสาวตัวน้อยไปด้วย และให้ลูกสาวเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงาใกล้กับจุดที่ ขุดเจาะท่อบาดาล ทำงานไปด้วย

และก็คอยมองลูกสาวไปด้วยแต่มีจังหวะนึงที่จะตั้งใจทำงานขุดมันหันไปมองลูกสาวอีกทีลูกสาวก็หายไปจากนั้นก็ได้วิ่งหารอบสวนมันสำปะหลังก็ไม่พบ ได้เห็นหลุมที่มีการขุดเจาะจะทำท่อบาดาลก็ลองเรียกตะโกนชื่อลูกสาวลงไปในท่อปรับได้ยินเสียงลูกสาวร้องไห้เป็นเสียงสะท้อนออกมาจากในหลุมที่ขุดท่อบาดาล

เพิ่งปากหลุมนั้นหรือปากท่อที่ขุดทำท่อบาดาล ความกว้างอยู่ที่ประมาณ 1 ฟุต ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเด็กวัย 1 ขวบเศษจะตกลงไปได้ จากนั้นทางพ่อและแม่ของเด็กก็ได้ประสานงานกับทางหน่วยต่างๆเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ นายกิตติศักดิ์ บุญจันทร์ หัวหน้างาน ต้องการและบรรเทาสาธารณภัย

ทราบเรื่องก็มาณจุดเกิดเหตุหาแนวทางในการช่วยเหลือเด็กหญิงให้ออกมาโดยมีชีวิตจึงได้มีการส่งท่อออกซิเจนลงไปก้นบ่อเพื่อให้เด็ก ซึ่งทางด้านคุณกิตติศักดิ์ นั้น ระหว่างที่กำลังหาแนวทางในการช่วยเหลือก็มีการตะโกนเรียกเด็กหญิงเป็น ระยะเด็กก็ยังมีเสียงร้องไห้ตอบกลับมา

จากนั้นก็ได้นำรถแบคโฮมาขุดลงไปเพื่อให้ถึงจุดที่เด็กหญิงอยู่ ก็ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน โดยรวมแล้ว แบคโฮ ขุดประมาณ ได้ประมาณ 10 เมตรกลับเจออุปสรรคเนื่องจากเจอก้อนหินก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถใช้แรงของรถแม็คโครขุดลงไปได้เพราะอาจจะ ทำให้ดินถล่ม ทับเด็กหญิง และกู้ภัยที่คอยช่วยเหลือ ต้องเปลี่ยนเป็นแรงคนในการขุดหินค่อยๆเซาะให้ถึงจุดก้นบ่อ

เพื่อเด็กจะได้ปลอดภัย หากเจ้าหน้าที่ก็ช่วยเหลือให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกท่านในการช่วยเหลือครั้งนี้จนใช้ระยะเวลาทั้งหมด 18 ชั่วโมงซึ่งได้พาเด็กออกมาได้ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ในเวลาช่วงประมาณ 10:00 น เด็กน้อยปลอดภัยดีไม่มีบาดแผลร่างกายมีแต่ดินโคลนที่ทับร่างน้องอยู่เจ้าหน้าที่ก็ได้นำดินที่ถูกน้องอยู่ออกให้หมดและนำขึ้นมาหาพ่อกับแม่ด้านบนต่างพากันดีใจ

และหลังจากนั้น ก็พาเด็กน้อยไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียดอีกครั้ง ถือว่าเป็นบุญของน้องมากที่สามารถอดทนอยู่ใต้ดินได้ถึง 18 ชั่วโมงและปลอดภัยจนถึงนาทีสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ

 

สนับสนุนโดย   gclub ผ่านเว็บ

    อันตรายจากคอกไฟฟ้า   เมื่อที่ 30 เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ 256 5 ช่วงเวลาประมาณ สามทุ่ม  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางเสาธง  แบบแจ้งเหตุว่าพบศพคนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตอยู่แถวบริเวณบ้านเลขที่ 11/51  ซอย สุขาภิบาล 1  ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ 

ส่งเบอร์เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบว่าชาวบ้านได้ช่วยกันนำร่างของชายที่เสียชีวิตมาไว้บริเวณศาลาซึ่งอยู่ตรงบริเวณปากทางเข้าบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

        อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุและพยายามที่จะทำการช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจผู้เสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งแต่ปรากฏว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้  จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตถูกไฟฟ้าช็อตโดยพบรอยไหม้ตรงที่บริเวณข้อเท้าขวาซึ่งตรงบริเวณดังกล่าวนั้นถูกไม่จนหนังเปิด  นอกจากนี้ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย  สำหรับชายที่เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายวินัยอายุประมาณ 53 ปี 

            จากการให้ข้อมูลของภรรยาของผู้เสียชีวิตระบุว่าพบศพของผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณข้างเล้าไก่ข้างบ้านพักของตนเองซึ่งโดยปกติแล้วผู้เสียชีวิตมักจะออกมาดูไก่ของตนเองเป็นประจำช่วงเวลาประมาณ 17:30 น   

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าเย็นมากแล้วแต่สามียังไม่กลับเข้าไปในบ้านทางภรรยาจึงได้มีการโทรศัพท์ตามแต่ก็ไม่มีคนรับสาย ดังนั้นทางภรรยาจึงได้เดินมาดูสามีของตนเองที่บริเวณเล้าไก่ข้างบ้านแต่ปรากฏว่าเห็นสามีนอนหมดสติอยู่บริเวณข้างเล้าไก่  อกจากนี้ยังสังเกตเห็นได้ว่าค้าของสามีนั้นถ้าไปที่รั่วตาข่ายที่สามีถึงเอาไว้บริเวณรอบแล้วไก่เนื่องจากว่าสามีมีการขึงลวดตาข่ายไฟฟ้าเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อื่นเข้ามาลักกินไก่ของตนเอง 

          อย่างไรก็ตามเมื่อทางภรรยาจับตัวสามีเขย่าเพื่อที่จะเรียกให้สามีตื่นปรากฏว่ามีกระแสไฟฟ้าดูดทำให้ภรรยารู้ว่าสามีถูกไฟดูดจึงรีบไปขับซับเอาลงหลังจากนั้นจึงได้วิ่งไปตามยากซึ่งอยู่บ้านให้ไกลกันให้มาช่วยดูและได้มีการโทรแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือพร้อมกับประสานงานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังบริเวณจุดเกิดเหตุ 

และในขณะที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมานั้นทางญาติก็ได้ช่วยกันรุ่มผู้เสียชีวิตไปไว้บริเวณด้านศาลาเพื่อให้นอนในท่าที่สบายยิ่งขึ้นหลังจากนั้นก็พากันช่วยกันปั๊มหัวใจแต่ทางผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้สติจนกู้ภัยมาถึงและทำการปั๊มหัวใจอีกแต่ก็พบว่าสามีของเธอเสียชีวิตไปแล้ว 

            จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อว่าเนื่องจากว่ามีการเปิดกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา แล้วทางผู้ตายน่าจะเดินมาดูไก่ของตนเองและอาจจะเกิดรุ่นล้มจนทำให้เท้าไปโดนรถตาข่ายซึ่งมีกระแสไฟอยู่ทำให้ถูกไฟช็อตและไปซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่งและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกตัวญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำเพิ่มเติม 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    gclub ผ่านเว็บ

ช่วยนักท่องเที่ยวกระโดดตึก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยดึงตัวนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันให้ลงมาจากระเบียงห้องนอนของตนได้อย่างปลอดภัยเฉียดฉิวหลังจากที่มีคนได้แจ้งกับทางตำรวจว่ามีคนชาวเยอรมันคิดจะกระโดดระเบียงตอนเวลา 12:30 น. ซึ่ง ได้เกิดเหตุนี้ที่ห้องพักห้องหนึ่งแห่งหนึ่งที่พัทยาทางใต้เมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี และที่เกิดเหตุเป็นชาวเยอรมันอายุประมาณ 60 ปี  เขาเมามายอยู่กับตัวเองที่ระเบียงห้องชั้นสองมือซ้ายถือขวดน้ำเจ้าหน้าที่พยายามพูดให้นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันลงมาจากระเบียงก่อนแต่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันกลับเอะอะโวยวาย

และไม่ยอมฟังเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมอุปกรณ์เพื่อสำหรับใช้ในการช่วยเหลือให้ ลงมาจากระเบียงและเมื่อช่วยได้แล้วเขาก็ไปพักในห้องของนักท่องเที่ยวชายเยอรมันและพูดคุยถามคำถามก่อนที่จะใช้จังหวะที่นักท่องเที่ยวเผลอเจ้าหน้าที่ก็ได้รีบดึงตัวนักท่องเที่ยวให้ ลงมาจากระเบียงโดยปลอดภัยไม่เกิดอะไรขึ้นแล้วก็พาไป ที่สภ. ที่เมืองพัทยาเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ไม่เอะอะโวยวายเหมือนตอนแรกเพื่อที่จะได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายให้ถูกต้องและได้ทราบชื่อนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันได้ภายหลังที่ลงชื่อไว้ที่โรงแรมชื่อ mr . Nolte

ซึ่งสาเหตุที่เค้าขึ้นไปบนระเบียงเพราะเครียดเรื่องปัญหากับด้านการเงินทำให้คิดสั้นคิดที่จะกระโดดฆ่าตัวตายลงมาจากระเบียง ซึ่งทางผู้ที่แจ้งกับทางตำรวจได้ยินหัวเราะออกมาทางหน้าต่างเพราะได้ยินเสียง เอะอะโวยวายเสียงดังจึงยื่นหัวออกมาดูและได้พบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวเยอรมันและพบว่าเขากำลังจะกระโดดระเบียงในตอนแรกเธอตกใจจนแทบไม่มีสติและไม่รู้ว่าจะต้องช่วยเหลือเขายังไงดีเพราะเธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนแต่เธอก็พยายามรวบรวมสติทั้งหมดและโทรหาตำรวจและกู้ภัยบอกว่าได้พบชาวต่างชาติที่โรงแรม

ซึ่งตอนนี้เค้ากำ ลังจะกระโดดระเบียงแล้วทางตำรวจและกู้ภัยจึงมาที่สถานที่เกิดเหตุและช่วยเหลือทางชาวเยอรมันได้ทันเรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณผู้ที่แจ้งกับทางตำรวจและกู้ภัยให้มาช่วยเหลือเพราะถ้าทำเป็นไม่สนใจชีวิตของคนคนหนึ่งจะต้องหายไปและถ้าเป็นเราเองไปเจอกับคนที่กำลังจะกระโดดตึกเราเอง

ก็คงจะไม่มีสติมากมายนะเหมือนที่คนอื่นไม่มีสติการที่ผู้หญิงคนนี้สามารถมีสติพอที่จะโทรเรียกตำรวจได้ก็ถือว่าเธอเก่งมากเลยทีเดียว ที่มีสติและใจดีพร้อมจะช่วยเหลือคนที่กำลังจะกระโดดตึกต้องขอยกย่องในการที่เธอช่วยเหลือและถ้าเป็นเราไปเจอเหตุการณ์อย่างนั้นคงไม่มีสติทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะช่วยเหลือเค้าได้เราคงช็อคมากจนอาจจะทำอะไรไม่ได้เลยในตอนนั้นที่สามแต่เธอรวบรวมสติที่เธอมีเหลือในตอนนั้นและกู้ภัยและตำรวจได้ทันเวลาที่จะมาช่วย          

 

สนับสนุนโดย  Gclub ผ่านเว็บ