ครูฉีกการบ้านลูกสาววัย 4 ขวบ  เป็นประเด็นถกเถียงกันในโลกออนไลน์เพราะเมื่อวันที่ 26 เดือนมกราคมปีพศ. 2565

ได้มีคุณแม่รายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่คุณแม่ลายนี้นั้นรู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของคุณครูของลูกสาวของเธอเป็นอย่างมาก  โดยผู้ที่โพสต์นั้นล่ะว่าเธอมีลูกสาวอายุ 4 ขวบกำลังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาลซึ่งคุณครูได้สั่งให้ทำการบ้าน

        อย่างไรก็ตามในช่วงที่ทำการบ้านนั้นคุณยายด้วยช่วยหลานสาวทำการบ้านแต่บังเอิญว่าการบ้านที่ทำไปส่งคุณครูนั้นทำคนละหน้ากับที่คุณครูสั่งทำให้คุณครูไม่พอใจและคุณครูก็มีพฤติกรรมนำการบ้านที่เด็กทำผิดนั้นมาฉีกทิ้งต่อหน้าต่อตาเด็กนอกจากนี้ยังมีการถ่ายรูปการบ้านที่ถูกฉีกทิ้งแล้วนำไปโพสในไลน์กลุ่มผู้ปกครองซึ่งทำให้คุณแม่รายนี้รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของคุณครูเป็นอย่างมากโดยในไลน์กลุ่มนั้นคุณครูยังมีการเขียนถึงผู้ปกครองด้วยว่าให้เด็กนั้นทำมาใหม่  

        ยังไงก็ตามสิ่งที่คุณแม่รายนี้ถูกนำมาโพสต์ในโลกออนไลน์เพราะทางคุณแม่ของเด็กมองว่าครูไม่สมควรที่จะทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่เด็กเพราะเด็กเองก็อายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้นยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากนักซึ่งถ้าหากเด็กทำการบ้านมาไม่ถูกหรือคุณครูไม่พอใจที่ให้คุณยายช่วยทำการบ้านให้ก็ควรจะมีการสอนเด็กดีๆแต่ไม่ควรแสดงพฤติกรรม 4 การบ้านของเด็กต่อหน้าเด็กเพราะมันจะสร้างความเสียใจให้กับเด็กและมันจะกลายเป็นปมด้อยต่อเด็กในอนาคตได้เช่นเดียวกัน 

       อย่างไรก็ตามก็มีคนในโลกออนไลน์บางกลุ่มนั้นได้ออกมาพูดถึงผู้ปกครองของเด็กรายนี้ด้วยว่าทางคุณยายของเด็กหรือคุณแม่ของเด็กก็ไม่ควรที่จะช่วยลูกหลานของตนเองทำการบ้านควรจะปล่อยให้เด็กนั้นทำเองและการบ้านนั้นควรจะเป็นคุณยายหรือคุณแม่นั้นเพียงแค่ guideline หรือสอนเด็กเท่านั้นแต่ไม่ควรทำให้เด็ก

         สำหรับเรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันในโลกออนไลน์แต่อันที่จริงแล้วข้อสรุปหัวข้อของการที่คุณแม่รายนี้ออกมาแฉไว้นั้นน่าจะเป็นพฤติกรรมของคุณครูมากกว่าซึ่งการที่ผู้ปกครองทำการบ้านให้เด็กนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่การที่คุณครูเห็นว่าการบ้านทำมาผิดก็ไม่ควรที่จะฉีกทิ้งต่อหน้าเด็กเพราะเด็กนั้นยังอายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น

หรือถึงแม้จะมีอายุมากกว่านี้ครูที่ดีก็ควรจะมีการว่ากล่าวตักเตือนหรือสั่งสอนแนะนำโดยใช้คำพูดที่ดีและไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรวมถึงไม่ควรที่จะมีการถ่ายรูปแล้วนำมาโพสต์ใน LINE กลุ่มของผู้ปกครองซึ่งถ้าหากว่าคุณครูต้องการที่จะมีการคุยกับผู้ปกครองของเด็กที่กระทำความผิดควรจะมีการ line ถึงผู้ปกครองส่วนตัวโดยตรงแต่ไม่ควรมีการรายงานลงไลน์กลุ่มเพราะจะสร้างความอับอายให้กับผู้ปกครองและเด็กได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

           เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งเธอเป็นคนประเทศมาเลเซียได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านทาง Tiktok โดยเธอนั้นได้มีการโพสต์เป็นคลิปให้เห็นว่าเธอได้ไปร่วมงานแต่งงานแห่งหนึ่งโดยภายในงานนั้นมีการจัดไว้อย่างหรูหรามีการตกแต่งด้วยโทนสีขาวสวยงาม  

        สาวสุดช้ำผัว หลอกไปงานแต่ง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอนำมาโพสต์นั้นเธอได้มีการเล่าเพิ่มเติมด้วยว่างานแต่งงานที่เธอถ่ายคลิปเอาไว้นี้เธอถูกหลอกให้มาโดยสามีของเธอนั้นเป็นผู้หลอกลวงให้เธอมาร่วมงานหญิงสาวเราว่าสามีของเธอได้ชักชวนให้เธอมางานแต่งงานพร้อมกับให้เธอนั้นใส่ชุดสีขาวซึ่งตัวสามีของเธอนั้นเองก็ใส่ชุดสีขาวเหมือนกันโดยระบุว่าจะได้ใส่เสื้อผ้าที่แมทช์กันซึ่งการมาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้เธอไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นเป็นใครแต่เธอก็ตามสามีของเธอมาร่วมงาน

           อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมาถึงงานแต่งงานปรากฏว่าเธอต้องช็อกอย่างหนักเมื่อเธอมารับรู้ภายหลังจากที่เธอมาถึงงานแต่งงานแล้วว่าเจ้าบ่าวของเจ้าสาวในงานแต่งงานในครั้งนี้ก็คือสามีที่พาเธอมางานแต่งงานในครั้งนี้นั่นเองโดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าสามีของเธอนั้นต้องการที่จะรับภรรยาคนที่ 2 มาไว้ในครอบครัวไม่ได้มีการบอกกับเธอล่วงหน้ามาก่อนเขาหลอกให้เธอมาร่วมงานแต่งงานและมาเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานของสามีเหมือนกับเป็นการมัดมือชกให้เธอนั้นต้องยอมรับภรรยาของที่ 2 ของสามีของเธอนั่นเอง

            อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าในช่วงจังหวะที่ใช้อยู่ในงานแต่งงานนั้นเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีเธอรู้สึกช็อกและเธอทำอะไรไม่ถูกเธอไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำได้แต่เพียงนั่งอยู่ในงานแต่งงานจนกว่าพิธีจะจบและยอมรับให้สามีของเธอนะมีภรรยาคนที่ 2 ซึ่งเธอนั้นรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

           หลังจากเรื่องราวของหญิงสาวชาวมาเลเซียรายนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ผู้คนต่างก็พากันไม่พอใจการกระทำของสามีของหญิงสาวรายนี้โดยมองว่าสามีนั้นควรจะต้องนึกถึงจิตใจของภรรยาควรจะต้องมีการบอกภรรยาก่อนว่าตนเองต้องการที่จะมีภรรยาคนที่ 2 และมีการพูดคุยตกลงให้ภรรยาคนแรกสามารถยอมรับได้ก่อนไม่ควรหลอกลวงกันเช่นนี้เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เห็นใจและไม่แคร์ภรรยาของตนเองเลย 

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้เธอได้มีการโพสต์ระบุสภาพจิตใจของเธอในขณะนี้ว่าบางครั้งเธอรู้สึกว่าเธอเศร้าเป็นอย่างมากแต่บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธอสามารถยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยอมตามใจสามีเพราะเธอมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นความต้องการของพระเจ้าก็เป็นได้ทำให้เรื่องทุกอย่างนั้นดำเนินต่อไปแบบนี้ซึ่งเธอยืนยันว่าเธอยอมรับสภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าใจของเธอนั้นจะไม่สามารถยอมรับได้ก็ตาม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ