หนุ่มผูกคอตายคาห้องขัง  เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2565  ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกฆ่าเสียชีวิต ตรงบริเวณถนนเนินเขาชัน

ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคม  โดยผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิงสาวอายุ 22 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง แต่ผู้ที่ลงมือก่อเหตุหญิงสาววัย 22 ปีรายนี้นั้นเป็นสามีของเธอเอง

        อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นกำลังตั้งครรภ์อยู่ได้ประมาณ 3 เดือน  ส่วนสาเหตุของการยิงภรรยาของตนเองเสียชีวิตนั้นผู้ก่อเหตุแจ้งว่ามีปัญหาทะเลาะกับภรรยาเนื่องจากว่าภรรยามักจะมีการด่าทอไปถึงพ่อแม่ของสามีอยู่เสมอทำให้มีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ

ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นตัวผู้เสียชีวิตเองก็ได้มีการด่าไปถึงพ่อแม่ของฝ่ายชายทำให้ฝ่ายชายนั้นไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ได้จึงใช้ปืนลูกซองยิงไปที่ภรรยาของตนเองหลังจากนั้นก็นำอาวุธปืนไปทิ้งไว้ข้างทางแถวพงหญ้า  และเดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

           เบื้องต้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนและผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วจึงนำผู้ต้องหาเข้าห้องขัง   อย่างไรก็ตามปรากฏว่าช่วงเวลาประมาณ 6 โมง 4นาทีของวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหาได้ตัดสินใจใช้เชือกที่ผูกกับกางเกงแขวนคอตายภายในห้องขัง

ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสถานีตำรวจพบว่าในช่วงเวลาที่ผู้ต้องหาแขวนคอตายนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเข้าเวรได้มีการลุกไปเข้าห้องน้ำดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวจึงไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนโรงพัก

        นอกจากนี้ภายในห้องขังก็ไม่มีผู้ต้องหาคนอื่นมีเพียงผู้เสียชีวิตรายเดียวที่ถูกขังเอาไว้ซึ่งจากในคลิปในกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตได้มีการปีนไปผูกเชือกแล้วแขวนคอตนเองกว่าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกลับมาเห็นและช่วยเหลือผู้ต้องหาก็ตายแล้ว  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเวรประจำวันดังกล่าวจึงได้มีการรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนอกจากนี้ยังมีการประสานงานไปยังครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตให้มาดูศพที่สถานีตำรวจเพิ่มเติมอีกด้วย

          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุอาจจะคิดมากที่ได้มีการฆ่าภรรยาของตนเองตายจึงตัดสินใจแขวนคอตายตามภรรยาของตนเองไปส่วนทางด้านญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่มีใครติดใจสาเหตุการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ 

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่เกิดโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น ถ้าหากทุกคนพูดคุยดีดี และไม่ใช้อารมณ์ สามีคงก็ไม่ฆ่าภรรยา และไม่ฆ่าตัวเองตาย   ครอบครัวน้อยๆที่จะมีครบทั้งพ่อ แม่และลูก

 

สนับสนุนโดย.    Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

กักตุนหน้ากากอนามัย ตำรวจไปค้นหาก็ไม่เจอ แต่ดันจับโกหกได้เพราะนักข่าวไปคุ้ยถังขยะ 

     จากที่มีข่าวเปิดเปิงการกักตุนหน้ากากอนามัย  โดยข้อมูลมีการระบุเอาไว้ว่ามีคนใกล้ชิดกับรัฐมนตรีคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งต่อมาได้มีการเปิดเผยหลักฐานโดยมีทั้งคลิปและสมุดบัญชี รวมถึงภาพถ่ายที่มีการขนย้ายและกักตุนหน้ากากอนามัยมาเปิดเผย ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบแล้วพบว่าคุณที่อยู่ในคลิปและมีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการประกาศขายหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมากนั้น ชื่อว่า นายบอย โดยผู้ชายคนนี้เป็นคนที่รู้จักกับลูกน้องของรัฐมนตรี  ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่า ซึ่งในตอนแรกที่เป็นข่าวดังใหญ่โตนั้นนายบอยได้ออกมาปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้กักตุนหน้ากากอนามัย

เพียงแค่เป็นการโพสต์ข้อความเล่นเล่นเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต อีกทั้ง  รัฐมนตรี  ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่าก็ออกมาบอกว่า ตนเองไม่คิดว่าจะมีใครที่สามารถกักตุนหน้ากากอนามัยได้ เพราะมีการส่งทหารออกไปคอยควบคุมอยู่แล้ว ซึ่งจากที่มีการติดตามข่าว เมื่อทางเจ้าหน้าที่เรียกให้นายบอยมาให้ปากคำ หลังจากนั้นก็มีการขอหมายศาล

เพื่อไปทำการค้นบ้านของนายบอย ก็ไม่พบว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ในบ้าน อีกทั้งภรรยาของนายบอยก็ยืนยันว่าที่บ้านไม่มีหน้ากากอนามัยและไม่ได้กักตุนไว้แน่นอน ส่วนที่นายบอยมีการโพสต์ไปนั้น ตอนเองก็ได้เตือนแล้วว่าไม่ให้โพสต์เล่นเล่น แต่นายบอยก็ไม่ฟัง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจค้นที่โกดังสินค้าที่อยู่ในคลิปที่นาย บอยมีการโพสต์ไว้ในเฟสบุ๊ก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่พบการกักตุนหน้ากากอนามัยเช่นเดียวกัน ซึ่งการค้นโกดังในครั้งนี้ มีนักข่าวเดินทางไปด้วย และก่อนที่จะมีการเดินทางกลับนั้น นักข่าวได้ไปขอสัมภาษณ์ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว

ซึ่งมีชาวบ้านบางคนได้กระซิบบอกให้นักข่าวเข้าไปดูด้านหลังของโกดังแห่งนี้ โดยเฉพาะที่ถังขยะ  และเมื่อนักข่าวลงทุนค้นถังขยะก็พบว่า มีกล่องหน้ากากอนามัย ที่เป็นกล่องแบบเดียวกับที่นายบอยโพสต์ลงในเฟสบุ๊ค และมีภาพอยู่ในคลิปของนายบอย ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นกล่องยี่ห้อเดียวกัน หลังจากนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเรื่องต่อไป ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร

จะจบที่นายบอยไม่มีความผิด หรือจะสามารถสืบหาต้นตอของตัวการใหญ่ที่กักตุนหน้ากากอนามัยครั้งนี้ได้ เพราะความจริงหลักฐานที่ทางเพจ แหม่มโพธิ์ดำ นำออกมาแฉนั้น มีทั้งคลิปเสียงและภาพถ่าย สมุดบัญชี รวมถึงหลักฐานการพูดคุยเจรจาการซื้อขายหน้ากากอนามัยกับประเทศจีนไว้พร้อมหมดแล้ว ต้องลองดูกันว่า รัฐมนตรี  ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่าจะช่วยลูกน้องของตัวเองยังไง

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ