ลูกสาวรู้พานั่งรถเก๋งเอามาทิ้งวัด   เมื่อวันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2564 ได้มีผู้ใช้ Facebook โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพซึ่งเป็นภาพถนนของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พระและชาวบ้านกำลังช่วยชายชราคนหนึ่งซึ่งนอนอยู่กลางถนน  โดยข้อความของคนที่โพสต์นั้นระบุว่าชายชราคนดังกล่าวนั้นป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนามาแต่ถูกลูกสาวขับรถพาเอามาทิ้งไว้ที่วัดดังกล่าวทำให้พระและชาวบ้านต่างก็ต้องช่วยกันดูแลชายชราคนดังกล่าวนอกจากนี้ยัง สร้างความเดือดร้อนให้กับพระวัดดังกล่าวอีกด้วยเนื่องจากว่าพระจำเป็นที่จะต้องกักตัว 14 วันเพราะถือว่าเป็นคนกลุ่มเสี่ยงหลังจากที่ใกล้ชิดกับชายชราคนดังกล่าวนั้นเอง

           จากเรื่องราวที่มีการถูกโพสต์เอาไว้ใน Facebook ลูกสาวรู้พานั่งรถเก๋งเอามาทิ้งวัด  นั้นทำให้นักข่าวได้มีการเดินทางไปยังสำนักสงฆ์วัดป่าสวนธรรมสวัสดี และเข้าพบกับหลวงพ่อสิทธิชัย  โดยสำนักสงฆ์ดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองแวงจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทางด้านหลวงพ่อสิทธิชัยก็ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าภาพที่มีการโพสต์ลง Facebook นั้นเป็นเรื่องจริง

           โดยชายชราคนดังกล่าวนั้นมีอายุสูงถึง 80 ปีแล้วจากการพูดคุยกับชายชราทราบมาว่าชายชราคนดังกล่าวถูกลูกสาวแท้ๆของตนเองแล้วก็ลูกเขยพาขึ้นรถเก๋งแล้วขับมาที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวหลังจากนั้นก็พาลงรถเก๋งแล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ภายในวัด  โดยลูกสาวของชายชราบอกกับหลวงพ่อสิทธิชัยว่า พ่อของเธอนั้นเคยรู้จักกับหลวงพ่อตั้งแต่สมัยที่พ่อของเธออยู่ที่จังหวัดขอนแก่นและพ่อของเธอนั้นต้องการมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวอยากจะมาใช้ชีวิตอยู่ภายในวัดกับหลวงพ่อสิทธิชัยหลังจากนั้นก็ยังมีการพูดฝากฝังให้หลวงพ่อช่วยดูแลพ่อของเธอด้วยแล้วก็ขับรถออกจากวัดไป 

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชาวบ้านได้มีการมาช่วยเหลือชายชราคนดังกล่าวให้เข้ามานั่งพักผ่อนในศาลาวัดและมีการพูดคุยกันชายชราคนดังกล่าวระบุว่าตัวเขาเองนั้นอยู่ที่จังหวัดลพบุรีลูกสาวของเขาพอรู้ว่าตัวเขานัดติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็ขับรถไปหาถึงที่บ้านหลังจากนั้นก็ขับรถพามาที่วัดแห่งนี้แล้วทิ้งเอาไว้ในวัด

       อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทางด้านผู้ใหญ่บ้านหนองแวงได้รีบประสานงานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาทำการฉีดทำความสะอาดภายในบริเวณวัดและทำการกักตัวชายชราวัย 80 ปี อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเศร้าสำหรับคนในหมู่บ้านและพระที่สำนักสงฆ์วัดป่าสวนธรรมสวัสดีเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าหลังจากที่ให้ชายชรานอนพักภายในกุฏิแต่ตื่นเช้ามากลับพบว่าชายชราคนดังกล่าวนั้นได้คลานออกมานอกกุฏิและมานอนอยู่บนถนนพร้อมทั้งยังตากฝนอีกด้วย

    ซึ่งเชื่อว่าชายชราคนดังกล่าวนั้นคงไม่อยากอยู่เป็นภาระให้กับพระในวัดจึงคิดจะ หนีกลับบ้าน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  gclub สมัครสมาชิก

 ชาวบ้านจังหวัดอุดรรวมตัวกับนักเรียนขับไล่โรงงานการผลิตยางมะตอยเพราะส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง

         ที่จังหวัดอุดรธานีได้เกิดเหตุการณ์ชาวบ้านรวมถึงนักเรียนนักศึกษาต่างพากันมารวมตัวประท้วงอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงงานการผลิตยางมะตอย  ซึ่งงานดังกล่าวนั้นแต่เดิมแล้วก็มีการตั้งโรงงานไว้ตรงบริเวณริมถนนมิตรภาพแห่งนี้มานานหลายปีแล้วแต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร   มามีปัญหาในช่วงเวลานี้เนื่องจากว่าทางโรงงานนั้นต้องเร่งผลิตยางมะตอยโดยมีการผลิตยางมะตอยนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืนทำให้กลิ่นเหม็นของยางมะตอยนั้นส่งกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรงออกไป

      อีกทั้งชาวบ้านยังบอกอีกด้วยว่า โรงงานดังกล่าวนั้นได้มีการนำรถบรรทุกมาจอดไว้บริเวณริมถนนซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเดินทางผ่านถนนเส้นนี้เป็นอย่างมากเพราะมีเบอร์รถบรรทุกเป็นจำนวนมากมาจอดยึดพื้นที่บนท้องถนนเอาไว้ทำให้การจราจรนั้นค่อนข้างที่จะมีปัญหาอีกทั้งกลิ่นเหม็นที่ทางโรงงานส่งออกมานั้นก็รุนแรงจนเด็กนักเรียนรวมถึงชาวบ้านไม่สามารถที่จะทนดมกลิ่นเหม็นนี้ไว้ได้เนื่องจากว่าเกรงจะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของคนในชุมชน

    ดังนั้นพังชาวบ้านและเด็กนักเรียนนักศึกษาทุกคนจึงได้มีการมารวมตัวกันที่กุมภวาปีเพื่อทำการประท้วงโรงงานดังกล่าวให้หยุดการผลิตยางมะตอย  อย่างไรก็ตามแต่หลังจากที่มีการยืนประท้วงกันมาอย่างยาวนานก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้สักที

    จนในที่สุดทางด้านเทศบาลก็ได้ออกมาเป็นตัวแทนของชาวบ้านและนักเรียนนักศึกษาออกไปพูดคุยกับทางโรงงานซึ่งท้ายที่สุดแล้วทางด้านเทศบาลก็มีการสั่งให้ทางโรงงานนั้นมีการหยุดการผลิตยางมะตอยเป็นการชั่วคราวไปก่อนโดยให้ทางโรงงานนั้นมีการปรับปรุงขั้นตอนการผลิตยางมะตอยให้ไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านโดยทางเทศบาลมีการประกาศให้โรงงานหยุดประมาณ 15 วัน 

ซึ่งทางโรงงานรับทราบและดำเนินการให้อยู่แต่ชาวบ้านที่มาประท้วงนั้นไม่อยากที่จะให้โรงงานนั้นเพียงแค่มีการปรับปรุงเท่านั้นแต่พวกเขาต้องการให้ทางโรงงานนั้นย้ายโรงงานไปผลิตยางมะตอยที่อื่น เนื่องจากว่าชาวบ้านบอกว่าพวกเขาต้องทนปัญหากลิ่นเหม็นของยางมะตอยมาแล้วหลายปีดังนั้นจึงอยากให้ทางโรงงานนั้นย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่เพียงแค่หยุดปรับปรุงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

       แต่อย่างไรก็ตามแต่สุดท้ายแล้วทางด้านชาวบ้านที่มารวมตัวกันต่างก็แยกย้ายกันไปหลังจากที่มีการประท้วงกันมาจนถึงช่วงประมาณเที่ยงวันโดยตัวแทนของชาวบ้านได้ระบุว่าพวกเขาจะให้โอกาสโรงงานในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาและอีก 15 วัน

พวกเขาจะมาดูอีกทีนึงว่าหลังจากที่ให้หยุดปรับปรุงแล้วโรงงานสามารถดำเนินการปรับปรุงได้หรือไม่เพราะถ้าหากปรับปรุงไม่ได้ชาวบ้านก็ยังจะยืนยันว่าพวกเขาจะต้องมีการย้ายโรงงานไปอยู่ที่อื่นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    gclub สมัครสมาชิก