สาววัย 18 ปีถูกแฟนหนุ่มบังคับให้ขายตัวแบบสวิงกิ้ง พ่อแม่เห็นผ่านทวิสเตอร์ แจ้งความดำเนินคดีทันที

         เมื่อวันที่ 13 เดือนตุลาคมปีพ. ศ. 2563   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาชายคนหนึ่งอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้นโดยใช้คนดังกล่าวนั้นถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์  

   โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ปกครองรายหนึ่งได้ไปใช้งาน Twitter และพบภาพลามกอนาจารที่มีการแชร์กันในทวิตเตอร์ซึ่งเมื่อเข้าไปดูพบว่าหญิงสาวที่อยู่ในภาพลามกอนาจารนั้นเป็นลูกสาวของตนเองซึ่งภาพดังกล่าวนั้นมีผู้หญิง 1 คนและผู้ชายหลายคนกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน

      หลังจากที่พวกเขาเห็นลูกสาวของตนเองอยู่ในภาพก็ได้มีการไปพูดคุยกับลูกสาวจนได้ความว่าลูกสาวของเขานั้นถูกแฟนหนุ่มซึ่งอายุ 21 ปีชื่อว่านายณัฐพัชร์หรือชื่อเล่นว่าเอ็ม บังคับให้ไปขายบริการ  โดยเด็กสาวมีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้นได้เล่าให้ถูกคอมของตนเองฟังว่า    เธอได้รู้จักกับนายเอ็มและเป็นแฟนกันมานาน 1 ปีซึ่งขณะที่เป็นแฟนกันน้ำได้มีเพศสัมพันธ์กันและนายเอ็มได้ใช้มือถือแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กันหลังจากนั้นในเอ็มได้นำคลิปวีดีโอของเธอมาทำการข่มขู่บังคับให้เธอนั้น

ไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นแบบขายบริการโดยให้ขายบริการแบบสวิงกิ้งหลังจากนั้นนายเอ็มก็นำคลิปดังกล่าวนั้นไปเผยแพร่ผ่านทาง facebook และ Twitter โดยเรียกเก็บค่าเข้าชมคนละ 600 บาทซึ่งถ้าหากเธอไม่ทำนายเอ็มก็จะทำร้ายร่างกายตบตีเธอรวมถึงขู่ว่าจะเอาภาพถ่ายของเธอนั้นไปเผยแพร่ให้กับคนอื่นได้ดูทำให้เธอรู้สึกกลัวจึงจำเป็นต้องทำตามที่นายเอ็มออกคำสั่งในที่สุดพ่อแม่ของเธอก็ไม่เห็นภาพดังกล่าวนั้นเอง

       หลังจากที่ผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 18 ปีรับรู้เรื่องราวจึงได้เข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตามจับกุมตัวใน mv ดำเนินคดีซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามติดตามหาหลักฐานจนในที่สุดก็พบว่าในเอ็มแอบหนีมาอยู่ที่จังหวัดพิจิตร  และมาบวชเป็นพระอยู่ที่นี่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวนายเอ็มเพื่อจะพาไปดำเนินคดีตามกฎหมายและได้ทำการให้นายเอ็มนั้นจากการเป็นพระ       

      สำหรับเรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้เด็กสาวหลายๆคนที่คิดจะมีแฟนในช่วงวัยรุ่นให้ดูพฤติกรรมของผู้ชายให้ดีก่อนที่จะคบหาเป็นแฟนกันเพราะว่าไม่แน่อาจจะถูกหลอกลวงให้มากระทำการขายตัวแบบหญิงสาวคนดังกล่าวก็เป็นไปได้หรือถ้าหากเป็นแฟนไปแล้วเพิ่งจะมาสอบพฤติกรรมที่บังคับให้มีการขายตัวควรปรึกษาพ่อแม่และคนในครอบครัว  เพื่อให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไม่ควรหวาดกลัวการข่มขู่เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกบังคับให้ไปขายตัวแบบนี้อยู่เรื่อยๆ 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่า บิกินี่

          เมื่อวันที่ 20 เดือนตุลาคมปีพศ2563 เกิดเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองได้มีการเข้าควบคุมตัวผู้ชายคนหนึ่งขณะอยู่ที่สนามบินกันอนุรักษ์ของประเทศอินเดีย  โดยชายคนที่ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเข้าไปควบคุมตัวนั้นเป็นชายชาวอินเดียซึ่งเขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และพึ่งเดินทางลงเครื่องมาถึงสนามบินของอินเดียได้ไม่นานยังไม่ทันที่จะทำเรื่องออกจากสนามบินก็ถูกเจ้าหน้าที่ของสนามบินควบคุมตัวเป็นที่เรียบร้อย

         การรายงานข่าวมีการระบุว่าสาเหตุที่ชายอินเดียคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวทันทีหลังจากที่ลงจากเครื่องบินนั่นก็เพราะว่าเจ้าหน้าที่ภายในสนามบินได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรองทางอากาศว่าจะมีชายคนหนึ่งมีการซุกซ่อนทองคำเข้ามาภายในประเทศอินเดียโดยที่ไม่ยอมเสียภาษีและได้มีการชี้ตัวชายคนดังกล่าวซึ่งมีลักษณะการเดินที่มีความผิดปกติไม่เหมือนกับคนอื่นทั่วไป

         เมื่อเจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าจับกุมและมีการค้นตัวอย่างละเอียดรวมถึงการนำชายอินเดียคนดังกล่าวไปทำการเอกซเรย์ก็พบว่าชายคนดังกล่าวมีการนำทองคำแท่งยัดเข้าไปในก้นของตนเองเพื่ออำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่นั้นสามารถมองเห็นทองคำได้โดยลักษณะของทองคำนั้นมีการถูกทำให้แบนแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่นำทองคำนั้นมาชั่งน้ำหนักผลปรากฏว่าทองคำมันดังกล่าวที่ถูกลักลอบนำเข้ามานั้นมีน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว

          สำหรับกฎหมายของประเทศอินเดียนั้นการที่คนอินเดียเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้วจะนำทองคำเข้ามาในประเทศอินเดียนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใดแต่เมื่อใดก็ตามที่ไกลนำทองคำเข้าอินเดียคุณจะต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลด้วยโดยค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะเสียนั้นจะอยู่ที่ 18 เปอร์เซ็นต์จึงทำให้หลายคนในประเทศอินเดียเมื่อเดินทางไปต่างประเทศแล้ว

มักจะมีการขนทองคำกับมาแต่จะใช้วิธีการซ่อนไม่ให้ทางเจ้าหน้าที่จับกุมได้เพราะยอดภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไปนั้นเป็นยอดที่ค่อนข้างสูงมากจึงไม่ค่อยมีใครอยากจะเสียภาษีให้กับรัฐบาลนั้นเอง

           อย่างไรก็ตามแต่เหตุการณ์ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบนำทองคำเข้ามาในประเทศอินเดียนั้นมักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะมีการซุกซ่อนเอาไว้ตามกระเป๋าสัมภาระต่างๆตามกล่องขนมหรือแม้แต่ตามชุดชั้นในแต่ยังไม่เคยเจอกรณีที่ยัดเข้าไปในรูก้นเหมือนกับที่ใช้คนอินเดียคนนี้ทำ 

และแน่นอนว่าด้วยศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้ทุกครั้งที่มีการลักลอบเข้ามาเจ้าหน้าที่ก็จะสามารถตรวจับได้ทุกครั้งไป  แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนลักลอบเข้ามาไม่เคยหยุดเช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย    ทดลองเล่นสล็อต gclub

โซเชียลเดือด เมื่ออาจารย์โพสต์เหยียดศาสนาและยุ่งเกี่ยวกับการเมืองรวมถึงวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่านักศึกษาโง่

      เมื่อวันที่ 20 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2563 มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวช่อง 1 เกี่ยวกับเรื่องกระแสร้อนแรงที่กำลังยืนอยู่ในขณะนี้ของนักศึกษาที่มีการนำข้อความของอาจารย์ท่านหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครออกมาแสดงข้อความที่มีการพูดถึงการยุ่งเกี่ยวทางการเมืองรวมถึงการโพสต์ข้อความต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายของศาสนาของผู้หญิงอิสลามและยังมีการส่งแชทไปคุยกับนักศึกษาในการต่อว่านักศึกษาไม่ฉลาด

ซึ่งนักศึกษาหลายท่านได้มีการดูข้อความนี้ของอาจารย์เรารู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในครั้งนี้ในหลายๆเรื่องจึงได้มีคนแคปหน้าจอ Facebook และข้อความ LINE ของอาจารย์คนดังกล่าวส่งเรื่องไปให้ทางมหาวิทยาลัยทำการตรวจสอบพฤติกรรมการแสดงออกของอาจารย์ท่านนี้และเมื่อมีการตรวจสอบพบว่าอาจารย์คนดังกล่าวนั้นเป็นถึงอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์หลังจากที่นักศึกษาได้มีการนำข้อความไปร้องเรียนกับทางมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มีการออกมายอมรับว่าหลังจากที่มีการพูดคุยกับอาจารย์คนดังกล่าวแล้วอาจารย์ท่านนั้น

ก็ได้ออกมายอมรับกับข้อความที่มีการแชร์กันอยู่ในขณะนี้ว่าทุกข้อความที่มีการใช้นั้นเป็นข้อความที่เกิดขึ้นจริงโดยอาจารย์คนนั้นได้มีการชี้แจงออกมาว่าสาเหตุที่มีการตอบว่านักเรียนนั้นก็เพื่อที่จะต้องการอบรมสั่งสอนและอยากจะสื่อให้นักเรียนเข้าใจและขยันเรียนมากขึ้นกว่านี้ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทางมหาวิทยาลัยได้มีการออกมาชี้แจงเรียบร้อยแล้ว

ว่าได้มีการพูดคุยกับพระอาจารย์ท่านนั้นเกี่ยวกับเรื่องของการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองหรือศาสนาและแม้แต่การเหยียดหยามคนอื่นก็ตามได้มีการขอร้องให้อาจารย์ท่านนั้นหยุดที่กำลังดังกล่าวทั้งหมดเรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ดีทางมหาวิทยาลัยเองก็ได้มีการเบี้ยประชุมปรึกษาหารือกันจากคณะกรรมการด้านคุณธรรมและจริยธรรมซึ่งจะมีการออกมาชี้แจงให้กับประชาชนได้ทราบอีกครั้งในนามของมหาวิทยาลัยถึงความผิดด้านจริยธรรมและคุณธรรมของอาจารย์คนดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง

         สำหรับมุมมองของคนภายนอกไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือนักศึกษาจากสถาบันอื่นๆอาจจะมองถึงพฤติกรรมของอาจารย์ท่านนี้ว่ามีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมาด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่เป็นถึงคณาจารย์ที่ทรงคุณวุฒินั้นการที่จะพูดถึงไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของทางการเมืองหรือทางศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะมีการโพสต์ Facebook เพราะหากเรื่องราวเหล่านี้ถูกมีการแชร์ออกไปไปสร้างความเสียหายและความสับสนให้กับบรรดาลูกศิษย์ได้และยังเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดกับคนในสังคมได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือเป็นใครก็แล้วแต่การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือการที่เราไปโพสยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการศาสนาหรือไม่ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องของการแต่งกายของคนอื่นจึงเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง

 

สนับสนุนโดย  sexybaccarat

พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ที่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายของตนเองที่เป็นผู้พิพากษา โดยได้มีการรับรองและมีการยืนยันในการตรวจสอบแล้วว่าพันตำรวจโทบรรยินนั้นมีแผนั้ได้มีการร่วมมือกันระหว่างผู้ต้องหาอีกอย่างน้อย2คนและอาจจะทำให้เกิดการชิงตัวผู้ต้องหาระหว่างที่นำตัวออกจากเรือนจำเพื่อที่จะไปขึ้นศาล

จึ้งเกิดการตรึงกำลังเข้มเพื่อป้องกันในการชงตัวผู้ต้องหานั่นเองไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน โดยมีการรวบรวบรวมเจ้าหน้าที่จำนวนมากกว่า20นาย เพราะฉะนั้นการนำตังมาจากเรือนจำบางขวางเพื่อไปขึ้นาลอาญานั้นจึงมีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก

ในช่วงที่มีการผ่านพ้นในการปฏิบัติการส่งตัวพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภารกรณ์ผู้ต้องหาในคดรอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาไปยังศาลอาญาตามที่ศาลได้มีการตรวจนัดพยานและหลักฐานและไม่อนุญาตให้พบฐาติในขณะที่มาศาลด้วยและได้มีการตรวจและดำเนินการในเรื่องหลักฐานเอกสารต่างๆในทางลับด้วย โดยไม่อนุญาติให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังห้องพิจารณา

โดยมีการถ่ายทอดกระบวนการพิจารณาผ่าน Vido Conference เพื่อให้สื่อมวลชนสามารถที่จะทำข่าวได้ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มขั้นเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด สืบเนื่องมากจากก่อนหน้านี้นั้นตำรวจกองปราบปรามได้มีข้อมูลว่า พันตำรวจโทบรรยินนั้นมีแผนที่จะทำการหลบหนีออกจากเรือนจำระกว่างการนำตัวมายังศาลอาญา

ในวันที่มีการไปศาลเพื่อพิจารณาคดีและยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆนั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษเรือนจำบางขวางและหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมานได้มีการยืนประจำในทุกทางเข้าออก ณเรือนจำกลางบางขวางเพื่อคุมตัวพันตำรวจโทบรรยินไปยังศาลโดยรถพิเศษกรุงทพได้ออกจากเรือนจำบางขวาง 7.30 น.และมีการถึงศาลอาญาเวลา 08.10 น.

โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 40 นาทีและตลอดเส้นทางที่มาศาลอาญานั้นโดยมีรถของกองปราบและชุดหนุมานรวมทั้งสิ้น 7 คันเพื่อคุมเข้มตลอดเส้นทางเพื่อป้องกันการชิงตัวผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้ทำการหลบหนีการคงบคุมตัวระหว่างเดินทางมาศาลนั่นเอง

โดยแผนที่มีการตั้งไว้ก็คือการวางระเบิดข้างเรือนจำและทำการล้มเสาธงชาติตรงกลางสนามหญ้าของเรือนจำเพื่อให้สามารถใช้ในการปีนหนีได้และเมื่อออกมาได้ก็จะมีเฮลิคอปเตอร์มารับซึ่งแผนนี้ได้หลุดปากมาจากผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดีลักทรัพย์หลังจากมีการประกันตัวและออกจากเรือนจำโดยอ้างว่าพันตำรวจโทบรรยินนั้นได้พูดคุยและให้ติดต่อทนายความอีกคนให้มาปรกันตัวออกไป

โดยข้อมูลนั้นมีการกล่าวว่าที่ให้มีการประกันตัวนั้นเพื่อให้ผู้ที่ได้ประกันตัวทำงานให้พันตำรวจโทบรรยินโดยการหาทางชิงตัวและลักพาตัวภรรยาผู้บัญชาการเรือนจำมาให้ได้เพื่อใช้ในกาต่อรองและได้มีการติดต่อไปยัง สส. นครสวรรค์ที่เคยเป็นลูกน้องของพันตำรวจโทบรรยินเพื่อร่วมวางแผนแต่ สส.นั้นไม่มีการร่วมมือด้วยนั่นเอง แต่การตัดสินนั้นพันตำรวจโทบรรยินได้กล่าวอ้างว่าขอเลื่อนพิจารณาคดีเนื่องจากตนนั้นอยู่ในอาการที่ไม่ปกติ

 

สนับสนุนโดย  ดาวน์โหลด Gclub