ในช่วงประมาณปีพศ 2560 ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีข่าวลงนามเกิดขึ้นเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบศพที่ถูกหั่นชิ้นส่วนเอาไว้เก็บไว้ในกล่องภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งและจากการที่มีการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบว่าภายในกล่องนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สบเดียวเท่านั้นแต่มีถึง 9 ศพด้วยกันทำให้การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในตอนนั้นนับได้ว่าเป็นคดีดังระดับประเทศและเป็นคดีฆาตกรต่อเนื่องซึ่งประชาชนชาวญี่ปุ่นต่างก็พากันหวาดกลัว

          สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นที่สามารถทำการจับกุมฆาตกรที่มีการฆ่า 9 ศพได้นั้นเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามหาน้องสาวเขาที่หายไป โดยข้อมูลล่าสุดนั้นพบว่าน้องสาวของเขาหายไปกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งจากการที่เขาได้มีการเข้าไปตรวจสอบข้อมูล Social Media ของน้องสาวของเขาพบว่าน้องสาวของเขานั้นได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มลัทธิกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการฆ่าตัวตายพร้อมกัน หลังจากนั้นน้องสาวของเขาก็ออกจากบ้านและหายไปไม่กลับมาบ้านอีกเหรอ

          และจากการติดตามหาตัวของน้องสาวของเขาพบว่าคนสุดท้ายที่อยู่กับน้องสาวของเขานั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า   ชิราอิชิ  ซึ่งผู้ชายคนนี้มีรายชื่ออยู่ในกลุ่มของคนที่ต้องการฆ่าตัวตายด้วย  ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการนำตัวชายคนดังกล่าวไปทำการสอบสวนพร้อมทั้งเข้าไปค้นอพาร์ทเม้นท์ที่เขาอาศัยอยู่จนในที่สุดก็พบชิ้นส่วนมนุษย์เป็นจำนวนมากอยู่ในห้องพักของเขา

        และจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าฆาตกรรายนี้ไม่ได้มีความต้องการที่จะฆ่าตัวตายอย่างที่มีการโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เชิญชวนให้คนเข้ามาร่วมกลุ่มเพียงแต่ว่าเขาใช้ทวิตเตอร์ในการเป็นช่องทางที่สามารถติดต่อเหยื่อให้มาหาเขาได้ด้วยเหตุผลที่เขาใช้ Twitter เป็นช่องทางในการติดต่อกับเหยื่อนั้นก็เพราะว่าเขาต้องการเงินจากเหยื่อและถ้าหากใครขัดขืนเขาก็จะฆ่าให้ตายและบางคนที่อยากเป็นผู้หญิงเขาก็ต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วยแต่เมื่อหญิงสาวเหล่านั้นปฏิเสธก็ถูกเขาฆ่าตายเช่นเดียวกัน

          ทำให้ภายในห้องพักของเขานั้นมีอยู่ที่ถูกเผาฆาตกรรมเป็นจำนวนมากถึง 9 ศพด้วยกันและหลังจากที่ทางด้านฆาตกรได้รับสารภาพแล้วตั้งแต่ช่วงที่จับกุมได้ในปีพศ. 2560 ในขณะนี้ศาลของประเทศญี่ปุ่นได้มีการตัดสินคดีนี้เป็นที่สิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าฆาตกรรายนี้จะถูกพิพากษาด้วยการตัดสินประหารชีวิตซึ่งครอบครัวของผู้ที่สูญเสียหรือก็ครอบครัวของเหยื่อนั้นต่างก็พากันดีใจและยอมรับการตัดสินของศาลในครั้งนี้มากเลยพวกเขาให้เหตุผลว่าโทษทีที่ฆาตกรได้รับนั้นเหมาะสมที่สุดแล้ว

 

สนับสนุนโดย.  gclub slot ทดลองเล่น

          จากข่าวที่กำลังโด่งดังเกี่ยวกับนายตำรวจคนหนึ่งได้หนีภรรยาหลวงแอบมาแต่งงานกับภรรยาน้อย  และขณะนี้กำลังจัดงานแต่งงานกันอยู่นั้นปรากฏว่าภรรยาหลวงกับแม่นายตำรวจซึ่งเป็นเจ้าบ่าวได้เดินทางไปที่บ้านที่จัดงานแต่งงานพร้อมทั้งได้มีการถ่ายคลิปแสดงตนว่าเป็นภรรยาหลวงและยังคงสถานการณ์เป็นภรรยาอยู่และมีการโชว์ใบทะเบียนสมรส

          อีกทั้งแม่ของเจ้าบ่าวยังได้มีการเข้าไปต่อว่าเจ้าบ่าวในขณะที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกำลังฟังพระสวดให้พรอยู่  ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นถูกเผยแพร่ออกมาในโลกออนไลน์จนคนพากันแชร์เป็นจำนวนมากเพราะไม่พอใจที่เจ้าบ่าวซึ่งเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจกับทำผิดวินัยแอบมาแต่งงานกับหญิงสาวคนอื่นในขณะที่ภรรยาหลวงไปตามถึงงานแต่งแต่ก็ไม่สนใจและไล่ภรรยาหลวงพร้อมกับแม่ของตนเองออกจากงานแต่งงานของตน

     อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวในครั้งนี้เป็นข่าวที่โด่งดังเป็นอย่างมากเลยทีเดียวถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามซึ่งทางด้านภรรยาหลวงยืนยันว่าหญิงสาวที่จัดงานแต่งงานกับสามีของตนเองนั้นแอบคบหากับสามีของตนเองมานานเกิน 1 ปีแล้วและเคยพูดคุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวให้เลิกยุ่งวุ่นวายกับสามีของตนเองยังมีหนังสือจากทนายส่งไปให้เลิกยุ่งกับสามีแต่หญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่ยอมเลิกส่วนสามีของตนนั้นก็แอบไปอยู่กับหญิงสาวคนดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง

      อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าบ่าวนั้นได้ออกมายอมรับว่าตนเองนั้นผิดแต่จะไม่เลือกทั้งภรรยาหลวงและพญาน้อยจะขออยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสองคนที่สำคัญในขณะนี้นายตำรวจคนดังกล่าวได้มีการลาพักร้อนเพื่อหนีข่าวคราวที่เกิดขึ้นนอกจากนี้ทางด้านสถานีตำรวจที่นายตำรวจคนดังกล่าวทำงานอยู่ก็ได้มีการออกมาพูดถึงการทำผิดวินัยของนายตำรวจคนดังกล่าว

          ซึ่งอาจจะเลวร้ายถึงขั้นสั่งจำคุกหรือไม่ก็ถูกไล่ออกจากการเป็นตำรวจส่วนทางด้านพระยาน้อยที่รับหน้าที่เป็นเจ้าสาวนั้นในขณะนี้ที่ทำงานของเธอได้ไล่เธอออกจากงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนครอบครัวของเธอนั้นยืนยันว่าไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเลยนายตำรวจคนดังกล่าวนั้นมีครอบครัวอยู่แล้วแต่หลังจากที่เจ้าสาวเบอร์ 2 ได้มีนักข่าวไปช่วงระยะเวลาหนึ่งล่าสุดได้ออกมาให้ข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเธอนั้นรู้ดีว่าฝ่ายชายนั้นมีภรรยาแล้วแต่เธอรักสายชายมาก

         ซึ่งเธอรู้ตัวว่าเธอนั้นทำผิดแต่เธอนั้นทำผิดเพราะเธอรักฝ่ายชายไม่มากนั่นเองและเธอต้องการให้คนในสังคมด่าทอเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะคนในครอบครัวของเธอไม่มีใครรู้เรื่องราวนี้มาก่อนและในตอนนี้เธอรู้สึกสำนึกผิดแล้วและเธอฝากหรือต่างๆไปขอโทษภรรยาหลวง กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตามทางด้านภรรยาหลวงนั้นออกมาพูดถึงฝ่ายหญิงว่าเธอจะไม่รับคำขอโทษจากภรรยาน้อยเป็นคำพูดแต่เธอต้องการให้ภรรยาน้อยจ่ายเธอมาด้วยจำนวนเงิน 300,000 บาทเพราะในขณะนี้ทางด้านภรรยาหลวงได้นำหลักฐานทั้งหมดส่งให้ทนายทำเรื่องฟ้องร้องเมียน้อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่าออนไลน์สด

           ในสังคม Facebook กำลังมีการพูดถึงไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่เขามีการโพสต์ Facebook เล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเขาเองเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของเขาซึ่งแต่เดิมนั้นครอบครัวคงมีความสุขมากเพราะมีทั้งพ่อแม่แล้วก็ลูกอยู่ด้วยกันในปัจจุบันนั้นครอบครัวของเขาแตกแยกและเขาต้องการมาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวของเขาในครั้งนี้เขาได้มีการพูดถึงครอบครัวของตัวเขาเองว่าเขานั้นมีอาชีพขับรถแท็กซี่

ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งขณะที่เขาออกกะแท็กซี่มาในตอนเช้าเขามานอนอยู่กับลูกของเขาซึ่งตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่เห็นภรรยาของเขาแล้วโดยเขาคิดว่าภรรยาของเขานั้นน่าจะออกไปซื้อของแต่เขาเราพระยาของเขาหลายชั่วโมงก็ไม่เห็นกลับมาและอยู่ดีๆมือถือของเขาก็ดังขึ้นและมีภาพส่งมาที่มือถือของเขาซึ่งภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพของภรรยาของเขาอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในลักษณะที่กำลังกอดกัน

แต่ที่สำคัญผู้ชายที่อยู่ในภาพนั้นคือเพื่อนซี้ของเขานั่นเองเมื่อก่อนเห็นภาพดังกล่าวนั้นเขารู้สึกเสียใจมากในขณะที่เขากำลังอยู่บ้านกับลูกซึ่งตอนนี้ลูกของเขานั้นยังรักมากนักยังคงต้องกินนมและยังคงต้องใช้แพมเพิสแต่ภรรยาของเขากลับไปกอดอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่โรงแรมที่สำคัญของเขาเอาเงินทั้งหมด

ติดตัวไปด้วยโดยไม่ทิ้งไว้ให้กับเขาและลูกเลยเขาไม่มีเงินที่จะซื้อนมให้ลูกกินซึ่งลูกก็ร้องไห้ด้วยความหิวจนหลับไปอย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วเขาได้มีการโพสต์ภาพซึ่งเป็นใบทะเบียนหย่าให้คนในโลกออนไลน์ได้ดูโดยเขาระบุว่าเขาได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเข้ากับภรรยาได้อย่าขาดออกจากกัน

และสิทธิ์ในการดูแลลูกนั้นเป็นของเขาเองซึ่งเขายังมีการค้นพบสอนคนในโลกออนไลน์ด้วยว่าอย่าไว้ใจใครและให้นำชีวิตครอบครัวของเขาเป็นบทเรียนให้ดูแลครอบครัวของตนเองให้ดีที่สำคัญเพื่อนสนิทก็ไม่ใช่ว่าจะไว้ใจได้

        เมื่อมีคนเห็นข้อความใน Facebook ของชายหนุ่มคนดังกล่าวต่างก็ออกมาให้กำลังใจชายหนุ่มกันมากโดยบอกให้เขานั้นสู้และฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ซึ่งให้คิดถึงลูกที่กำลังจะโตขึ้นในอนาคตส่วนภรรยาของเขานั้นเขาได้มีการอัพเดทมาให้คนในโลกออนไลน์โดยทราบด้วยว่าหลังจากที่อยากขาดกับเขาตัวเขาเองก็ได้ข่าวว่าภรรยาของเขานั้นตกลงที่จะไปอยู่กับเพื่อนสนิทของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งตัวเขาเองกับเพื่อนสนิทก็คงจะต้องเลิกคบกันไปและเขาจะใช้ชีวิตในการหาเลี้ยงลูกของเขาให้ได้ดีที่สุดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  Sexy Gaming

 

              เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เดือนตุลาคมพ.ศ 2553 โดยเกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐมในงาน  เฉลิมฉลององค์พระปฐมเจดีย์ซึ่งมีการจัดงานให้ประชาชนนั้นเข้าไปทำบุญร่วมกัน  โดยในวันดังกล่าวนั้นมีผู้คนเป็นจำนวนมากต่างพากันหลั่งไหลเดินทางไปทำบุญที่องค์พระปฐมเจดีย์ทำให้บริเวณที่จอดรถตรงบริเวณใต้กับพระปฐมเจดีย์หนาแน่นไปด้วยรถที่จอดอย่างไรก็ตามได้มีสามีภรรยาคู่หนึ่งขับรถเข้ามาในพื้นที่จอดรถขององค์พระปฐมเจดีย์เพื่อที่จะทำการไปกราบไหว้ขอพรองค์ปฐมเจดีย์

                 แต่ระหว่างที่กำลังหาที่จอดรถอยู่นั้นพวกเขาได้เจอช่องจอดรถช่อง 1 ซึ่งเป็นช่องว่างพอดีเนื่องจากว่าพึ่งมีรถกระบะคันนึงขับออกไปดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจที่จะถอยรถเข้าช่องจอดที่ว่างนั้นทันทีในขณะที่กำลังถอยรถอยู่นั้นก็มีคุณป้าคนหนึ่งยืนอยู่ตรงบริเวณช่องจอดรถนั้นเมื่อรถถอยเข้ามาคุณป้าก็ได้ตบบริเวณท้ายรถไปประมาณ 3 ครั้ง  หลังจากนั้นสามีภรรยาที่อยู่ภายในรถจึงได้ลงมาคุยกับคุณป้าจึงได้ความว่าคุณป้าคนดังกล่าวนั้น

ได้มีการยืนจองที่จอดรถนี้เอาไว้โดยจะจองไว้ให้ลูกสาวซึ่งกำลังขับรถวนเข้ามาจอดที่บริเวณนี้ทำให้เกิดการถกเถียงกันระหว่างคุณป้าและสองสามีภรรยาซึ่งสองสามีภรรยานั้นได้มีการโต้เถียงไปว่าบริเวณที่จอดรถในวัดนี้เป็นพื้นที่สาธารณะไม่สามารถทำการจองได้และถ้าหากว่าคุณป้าจะจองก็ต้องให้ลูกสาวมาจอดทันทีซึ่งตอนนี้รอหลายนาทีแล้วแต่ลูกสาวยังไม่มาสักที

                     ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถที่จะจอดรถตรงบริเวณนี้ได้แต่ในขณะนั้นคุณป้าก็ไม่ยอมถอยเช่นเดียวกันยังคงยืนขวางอยู่พร้อมกับด่า 2สามีภรรยาว่านิสัยไม่ดีทั้งคู่ได้มีการทะเลาะกันอยู่สักพักหนึ่ง   ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีการนำมาจากกล้องหน้ารถของสองสามีภรรยา

ซึ่งเหตุการณ์ตัดลงเพียงแค่นั้นไม่ได้มีการบอกกล่าวว่าเหตุการณ์ต่อไปนั้นเกิดขึ้นอะไรบ้างโดยฝ่ายชายที่นำข้อความมาโพสต์ใน Facebook นั้นได้มีการระบุว่าตนเองต้องการที่จะจอดรถในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากว่าเห็นว่าใกล้กับองค์พระปฐมเจดีย์  เพราะเขาเองไม่ต้องการให้ำรรยาของเขานั้นต้องเดินไกลเนื่องจากว่าในขณะนี้ภรรยาของเขากำลังท้อง 5 เดือนนั่นเอง 

          สำหรับปัญหาการแย่งที่จอดรถกันนั้นเรามักเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเห็นเป็นข่าวโดยการแย่งที่จอดรถกันในห้างสรรพสินค้าซึ่งบางครั้งก็ถึงขนาด เพราะตบตีกันเลยก็มีโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตอนจบของเรื่องทางด้านผู้โพสต์ไม่ได้ระบุว่าสุดท้ายแล้วจบลงกันด้วยแบบไหน 

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของการแย่งที่จอดรถนั้นไม่ควรที่จะมีเนื่องจากว่าการจอดรถในพื้นที่สาธารณะควรจะใช้สิทธิ์ว่าใครมาถึงก่อนแล้วได้จอดไม่ควรใช้สิทธิ์ในการลงไปยืนจองเพราะว่าถือเป็นมารยาททางสังคมที่ดีนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  ทดลองเล่นบาคาร่า