แม่แอบติดกล้องวงจรปิดไว้  เมื่อวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายนปีพศ 2564 มีหญิงสาวรายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวเราเรื่องราวที่เธอได้เจอมาแล้วเธอค่อนข้างที่จะรู้สึกหวาดระแวงและหวาดผวาเป็นอย่างมากโดยเธอระบุว่าในขณะที่เธอนอนเล่นอยู่ในห้องนอน

ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของเธอเองนั้นช่วงจังหวะดังกล่าวเป็นช่วงที่ไฟดับทำให้เธอมองเห็นไฟกระพริบสีแดงตรงบริเวณโต๊ะเขียนหนังสือของเธอและหลังจากที่ไฟฟ้าติดแล้วเธอก็พบว่าไฟกระพริบดังกล่าวนั้นเป็นไฟกระพริบของกล้องวงจรปิดที่ถูกแอบมาติดตั้งเอาไว้

           หญิงสาวรายนี้ระบุว่าบ้านของเธอนั้นอยู่ด้วยกันเพียงแค่สองคนเท่านั้นได้ก็คือเธอและก็แม่ของเธอ

  ซึ่งเธอคิดว่าคนที่นำกล้องวงจรปิดมาแอบติดตั้งไว้ในห้องนอนของเธอนั้นก็คงเป็นแม่ของเธอนั่นเองซึ่งหลังจากที่ เธอค้นห้องก็พบว่ามีกล้องวงจรปิดแบบติดตั้งไว้ถึง 2 ตัวด้วยกันโดยตัวแรกนั้น 2 ไปที่โต๊ะอ่านหนังสือของเธอในขณะที่อีกกล้องนึงนั้นส่งไปที่เตียงนอนของเธอหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวจึงได้มีการโทรไปสอบถามกับแม่ของเธอซึ่งแม่ของเธอก็ออกมายอมรับว่าเป็นคนที่นำกล้องวงจรปิดไปติดตั้งเองเพราะเกรงว่าลูกจะแอบนอนหลับตอนเรียนออนไลน์   

     อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าเธอรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก  โดยเธอระบุว่าเธอนั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียวเธอเกิดภาวะความเครียดอย่างหนักซึ่งเธอระบุว่าตั้งแต่เล็กจนโตนั้นแม่ของเธอเข้มงวดเรื่องของการเรียนกับเธอเรื่อยมา

โดยให้เธอนั้นสอบเข้าโรงเรียนที่เป็นอันดับ 1 ของจังหวัดหลังจากขึ้นระดับชั้นมัธยมก็ส่งเข้าเรียนโรงเรียนอันดับ 1 ของประเทศ นอกจากนี้ยังขู่เธอว่าถ้าหากเธอไม่เรียนให้คะแนนดีๆแม่ของเธอจะไม่ส่งเสียเลี้ยงดูเธออีกเลยซึ่งเธอก็ได้ปฏิบัติตามคำสอนของแม่เธอทุกอย่างเพราะตัวเธอเองนั้นก็รักแม่

    อย่างไรก็ตามเธอมองว่าการที่แม่ของเธอนั้นติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องส่วนตัวของเธอนั้นเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุและเธอไม่รู้สึกโอเคกับการกระทำของแม่ในครั้งนี้แต่แม่ของเธอกลับมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำกันแม่หลายๆคนก็พากันแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อที่จะได้ตรวจสอบลูกได้ไม่ว่าลูกจะนอนหลับหรือว่าลูกจะทำกิจกรรมอะไรในห้องนอนก็ตาม

    อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี หญิงสาวคนดังกล่าว มีภาวะความเครียดอย่างหนัก และเธอมีอารมณ์รุนแรง เริ่มทำร้ายตัวเอง จนตอนนี้เข้ารับการรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิต  

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  www.ufabet.com ลิ้งเข้าระบบ

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในอินโดนีเซีย ในตอนนี้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นรายวันก็ทำให้เกิดปราการการณ์คนไปตุนซื้อขอองบางส่วนก็มาจากข่าวปลอมด้วยในการที่จะไปซื้อของกันจนของขาดแคลนเดี๋ยวไปดูกัน

โดยสถานการณ์โควิด-19ในอินโดนีเซียถือว่าผู้ติดเชื้อรายันพุ่งสูงขึ้นแม้ว่าจะลดลงในช่วงกี่วันที่ผ่านมาแต่สิ่งที่รุนแรงไปมากกว่านั้นก็คือข่าวลวงข่าวปลอมที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผู้คนนั้นแตกตื่นแล้วหลายคนก็กำลังหาวิธีเพื่อที่จะได้รอดพ้นจากวิกฤตโควิด-19

ก่อนอื่นมาดูข้อมูลที่ออกมาจากอินโดนีเซียที่มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานที่ผ่านมาตัวเลขของผู้ติดเชื้ออยู่ที่38,325คนเสียชีวิตรายวันอยู่ที่1,280คนถือว่าตัวเลขเพิ่มขึ้นจากวันที่19กรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้นดูแนวโน้มในช่วง2-3วันที่ผ่านมาถือว่าตัวเลขลดลงกว่าสัปดาห์ที่แล้วที่มีผู้ติดเชื้อรายวันมากถึง4หมื่นไปจนถึง5หมื่นปลายๆต่อวันเลย

สัญญาณที่เกิดขึ้นสำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ทำสถิติต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมาสำหรับที่อินโดนีเซียแม้ว่าตัวเลขจะลดลงแล้วผู้เชี่ยวชาญก็ได้ออกมาเตือนว่าความวิตดกังวลเกี่ยวกับเรื่องระบบสาธารณสุขในประเทศอินโดนีเซียนั้นก็มีความกังวลมากขึ้นว่าใกล้ที่จะล้มสลายทั้งขาดแคลนเครื่องมือเวชภัณฑ์ออกซิเจนจนไม่สามารถรองรับผู้ปป่วยได้อีก

ซึ่งหากเราไปดูตัวเลขของเตียงผู้ป่วยเรียกได้ว่าผู้ป่วยล้นแล้วล้นอีกตามดรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศอินโดนีเซียรับผู้ป่วยโควิด-19จนล้นมีเตียงที่ผู้ป่วยต้องไปอยู่ที่เตียงประมาณแสนกว่าเตียงแต่จำนวนเตียงที่โรงพยาบาลรองรับได้จริงๆนั้นมันอยู่ที่ประมาณ9หมื่นเตียงเท่านั้นเองก็ถือว่าล้นจริงๆสำหรับการทำงานของทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่กำลังสู้กับสถานการณืการระบาดของโควิด-19อยู่

นอกจากนี้การระบากของเชื้อไวรัสเรียกได้ว่ารวดเร็วติดจรวดในอินโดนีเซียมีเชื้อเพลิงจากเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าที่มีต้นกำหนดมาจากประเทศอินเดียแล้วก็มีการระบาดได้รวดเร็วกลบเชื้อสายพันธุ์อื่นๆที่ระบาดมาก่อนหน้านี้ทีนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้คนที่อินโดนีเซียขวัญหนีอยู่แล้วแล้วก็พยายามที่จะหาวิธี

ในการที่จะจัดการทำให้ตัวเองปลอดจากเชื้อโควิด-19ดังนั้นมีข่าวนึงที่น่าตกใจเหมือนกันสำหรับที่ทางสื่อนนั้นรายงานออกมานั่นก็คือเรื่องของข่าวลือข่าวลวงข่าวปลอมโดยสำนักข่าวBBCมีการรายงานว่ามีข้อมูลที่ทำให้คนเข้าใจผิดแล้วคนส่วนมากไม่ได้กรองข้อมูลกด็เลยแพร่ข้อมูลกันผิดๆไปในวงกว้างโดยข้อมูลนี้เป็นผู้ผลิตต่างๆแล้วก็วิธีเสริมเกราะป้องกันร่างกกายให้แข็งแรง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  gclub

   เสียชีวิตจากการต้มสมุนไพรอบตัว  เมื่อวันที่ 4 เดือนตุลาคมปี พ.ศ. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจขอสถานีตำรวจในจังหวัดชลบุรีได้รับแจ้งเหตุมีหญิงชราวัย 61 ปีเสียชีวิตภายในบ้านพักเมื่อเดินทางไปถึงก็พบผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่ใบหน้าฟุ๊บอยู่ตรงบริเวณที่ต้มหม้อสมุนไพรในขณะที่ตัวนั้นนั่งอยู่กับพื้นนอกจากนี้ตามร่างกายยังพบรอยไหม้และมีรอยพุพองซึ่งเกิดขึ้นทั้งบริเวณใบหน้าและหัวไหล่ทั้งสองข้างรวมถึงที่หน้าอกด้วย 

         จากการให้ข้อมูลของสามีของผู้เสียชีวิต  ได้ความว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 เดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 6:00 น  

ผู้เสียชีวิตได้มีการนำสมุนไพรมาทำการต้มเพื่อต้องการที่จะอบตัวโดยได้มีการนำมาต้มไว้กับเตาถ่านหลังจากนั้นก็นำผ้าห่มขนาดใหญ่เอามาคลุมตัวและคลุมหัวเอาไว้ซึ่งทางด้านตัวสามีเองได้มีการเตือนภรรยาแล้วว่าไม่ควรจะทำเพราะอากาศจะไม่ถ่ายเทและอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแต่ทางผู้เสียชีวิตไม่สนใจคำเตือนส่วนทางด้านสามีเองก็เห็นว่าทางภรรยานะร่างกายแข็งแรงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจึงปล่อยให้ภรรยาอบตัวไปและตัวเขาเองก็ออกไปทำธุระนอกบ้าน 

       จนช่วงประมาณ 9:00 น จึงได้กลับมาในบ้านก็เห็นว่าภรรยาล้มฟุบใบหน้าคว่ำอยู่ตรงบริเวณหม้อต้มสมุนไพรแล้ว

เมื่อจับตัวดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงได้มีการประสานงานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไรก็ตามทั้งสามีของผู้เสียชีวิตระบุว่าตัวเขาเพิ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 4 คิดว่าจะนำเงินดังกล่าวเก็บเอาไว้ใช้กันสองคนตายายแต่ปรากฏว่าต้องนำเงินดังกล่าวนั้นมาใช้ในการจัดงานศพให้กับภรรยาแทน 

        ภายหลังจากที่มีข่าวว่าคุณยายวัย 61 ปีเสียชีวิตจากการต้มสมุนไพรอบตัวก็ทำให้มีการพูดถึงเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากซึ่งใน Facebook ของแพทย์แผนไทย

ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกันโดยทางเพจระบุว่าสมุนไพรไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่สาเหตุที่ทำให้คุณยายวัย 61 ปีเสียชีวิตนั้นมาจากที่คุณยายทำการอบสมุนไพรไม่ถูกวิธี

      เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าการจุดเตาอังโล่นั้นจะมีควันเกิดขึ้นและถ้าหากเอาผ้าไปคุมจนไม่มีอากาศถ่ายเทก็จะทำให้ควันลอยวนอยู่ภายในผ้าและเมื่อคนเข้าไปอยู่ในผ้าและสูดดมเข้าไปก็จะทำให้สูดดม ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปเนื่องจากว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นจะออกมาจากควันที่มีการจุดเตาไฟนั่นเอง

       ซึ่งเรื่องนี้สามารถเปรียบได้กับการที่ข่าวคนฆ่าตัวตายด้วยการนำเตาไปจุดให้เกิดควันแล้วนำไปไว้ในรถเป็นการรมควันตนเองจนเสียชีวิตซึ่งกรณีนี้ก็   อย่างไรก็ตามสำหรับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นเป็นก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้ซึ่งถือว่ามีพิษ  ถ้าหากว่ามีการสูบลมเข้าไปก็จะทำให้รู้สึกเพลียและอาจจะเกิดอันตรายจนถึงแก่ความตายได้ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  UFABET เว็บหลัก

        แฉหนุ่มนัดซื้อบริการ มีการเปิดเผยคลิปใน Facebook ออกมาแฉชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งในคลิปนั้นมีการโวยวายเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อขายบริการทางเพศกับหญิงสาวรายหนึ่ง

โดยมีการนัดตกลงที่จะร่วมหลับนอนกันคิดเป็นครั้งละ 1,200 บาทอย่างไรก็ตามในคลิปจะเห็นได้ว่าฝ่ายชายนั้นโวยวายต้องการที่จะขอมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งหนึ่งโดยที่ไม่จ่ายเงินเพิ่ม เนื่องจากว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกนั้นฝ่ายชายตื่นเต้นมากเกินไปจนทำให้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้นก็เสร็จแล้วซึ่งฝ่ายชายนั้นมองว่าเงิน 1,200 บาทที่จ่ายไปไม่คุ้ม

       อย่างไรก็ตามทางด้านฝ่ายหญิงที่เป็นผู้ค้าบริการเองก็ไม่ยินยอมโดยเธอระบุว่าถ้าหากว่าต้องการเบิ้ลอีกครั้งหนึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินให้กับเธอเพิ่มอีก 500 บาท

ซึ่งฝ่ายชายที่เป็นฝ่ายซื้อบริการเองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันทั้งนี้ได้มีการเรียกบุคคลที่ 3 มาช่วยไกล่เกลี่ยแต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้จนในที่สุดหนุ่มที่ซื้อบริการก็โวยวายเสร็จและเดินออกไป 

             ระหว่างที่มีการทะเลาะวิวาทกันนั้นปรากฏว่าหญิงสาวที่ขายบริการได้มีการอัดคลิปเอาไว้และนำคลิปนี้มาเผยแพร่ใน Facebook ทำให้มีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมากซึ่งบางคนก็เข้ามา comment ด้วยความสนุกสนานและหลายคนก็เกิดความสงสัยว่ากรณีนี้ใครจะเป็นฝ่ายผิดเนื่องจากว่าการซื้อขายบริการทางเพศในประเทศไทยนั้น

ยังไม่ถูกกฎหมายเพราะฉะนั้นหากมีการซื้อขายบริการทางเพศกันก็ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมายและไม่สามารถแจ้งความเอาผิดใครได้เพราะถ้าเรื่องถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะถูกจับกุมทั้งสองฝ่ายทันที   ซึ่งทางด้านผู้รู้ด้านกฎหมายก็ไอ้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า 

        สำหรับหญิงสาวที่เปิดขายบริการนั้นมีความผิดเพราะผิดกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของการค้ากามและจะต้องเสียค่าปรับรวมถึงอาจจะต้องติดคุกด้วยในขณะเดียวกันที่ฝ่ายชายที่เป็นผู้ซื้อบริการก็ถูกจับกลุ่มได้เช่นเดียวกันเพราะเป็นคนที่สนับสนุนในการทำให้เกิดมีการซื้อขายบริการทางเพศกันในครั้งนี้ขึ้นดังนั้นไม่ว่าเรื่องนี้ทั้งคู่จะตกลงกันได้หรือไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะให้เรื่องไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะถูกจับกุมเข้าคุกทั้งคู่นั่นเอง  

 อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการแชร์เป็นวงกว้างถึงขนาดออกสื่อต่างๆดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วคงต้องรอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จะจบลงแบบเงียบสงบหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปตามตัวคนทั้งคู่เพื่อมาดำเนินคดีหรือไม่ 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้