เชื่อว่าหลายคนคงเจอกับปัญหาว่าเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวที่เป็นญาติพี่น้องเดือดร้อนและมักจะมาขอร้องให้ไปช่วยค้ำประกันไม่ว่าจะเป็นการค้ำประกันซื้อรถหรือแม้

ค้ำประกันให้เพื่อนสนิท แต่การค้ำประกันกู้หนี้ยืมสินต่างๆ  ซึ่งหลายคนนั้นเนื่องจากว่ามีความสนิทและไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วญาติพี่น้องหรือเพื่อนจะทำร้ายตนเองได้ก็ตัดสินใจที่จะเซ็นค้ำประกันให้  แต่หลังจากที่มีการเซ็นค้ำประกันให้แล้วส่วนใหญ่มักจะโดนคนสนิททำร้ายด้วยการไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดหรือไม่ยอมใช้หนี้ทำให้เดือดร้อนมาถึงคนเซ็นค้ำประกันนั่นเอง

           สำหรับในบทความนี้เราจะมีการพูดถึงปัญหาที่มีอยู่ในสังคมนี้ซึ่งเป็นปัญหาที่เรามักจะพบเห็นการร้องเรียนออกมาผ่านทางสื่อต่างๆนั้นก็คือปัญหาการค้ำประกันให้กับคนรู้จักหรือเพื่อนสนิทแล้วถูกเพื่อนหนีหนี้ไม่ยอมจ่ายสร้างความเดือดร้อนให้กับคนค้ำประกันโดยส่วนใหญ่แล้วคนค้ำประกันจะต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดให้ซึ่งทางธนาคารก็จะมาทำการยึดที่ดินยึดบ้านยึดทรัพย์สินอื่นๆ

         ถ้าหากใครได้มีการติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่ามีหลายครั้งที่มีนักศึกษาที่ต้องการเรียนและต้องการกู้เงินจากทางรัฐบาลที่เป็นเงิน กยศ. จะต้องมีคนเซ็นค้ำประกันให้ด้วยคนเซ็นค้ำประกัน

นั้นมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นข้าราชการตำแหน่งยศตั้งแต่ 7 ขึ้นไปดังนั้นจึงมักมีนักศึกษาที่สนิทสนมกับอาจารย์มาร้องขอให้อาจารย์ของตนเองทำการเซ็นค้ำประกันให้และเมื่อมีการเซ็นค้ำประกันนักศึกษาเมื่อเรียนจบแล้วกลับไม่ยอมใช้หนี้กยศแต่นี่ทำให้อาจารย์เดือดร้อนเพราะเป็นคนเซ็นค้ำประกันให้บางคนถูกยึดบ้านยึดรถสูญเสียทรัพย์สินต้องออกมาร้องไห้คร่ำครวญผ่านทางสื่อต่างๆเพื่อให้ลูกศิษย์ช่วยกลับมาใช้หนี้ กยศ. ให้กับตนเองจะได้ไม่ต้องถูกจุดบ้านนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่นี้ก็จะสอนเพียงอย่างเดียวที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้แม้แต่การเซ็นค้ำประกันเรื่องของการซื้อรถหรือเป็นค้ำประกันในการทำธุรกิจด้านอื่นๆก็ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกันอย่างเช่นล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เดือนมิถุนายนพ.ศ 2555 ได้มีหญิงวัย 40 ปีคนหนึ่งชาวจังหวัดขอนแก่นได้มีการเซ็นค้ำประกันให้เพื่อนเมื่อเพื่อนต้องการที่จะซื้อรถแต่เมื่อมีการเซ็นค้ำประกันไปแล้วปรากฏว่าเพื่อนได้รถแล้วไม่ยอมจ่ายเงินทำให้ถูกตัวทวงหนี้

       อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านี้ไม่สามารถติดต่อลูกหนี้ของตนเองได้จึงได้มีการทวงหนี้มาอย่างคนเซ็นค้ำประกันซึ่งได้มีการส่งเรื่องฟ้องศาลและศาลก็มีการบังคับให้ขายทรัพย์สินของคนค้ำประกันทอดตลาดสร้างความเดือดร้อนให้กับหญิงวัย 40 ปีนี้เป็นอย่างมากจนต้องมีการร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ 

            ดังนั้นถ้าหากใครไม่อยากจะเดือดร้อนเพราะไปเซ็นค้ำประกันให้กับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือคนรู้จักมากแค่ไหนก็ไม่ควรที่จะใจอ่อนเซ็นค้ำประกันให้เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าในอนาคตคนที่เราเซ็นค้ำประกันให้นั้นจะหนีหนี้แล้วจะมาสร้างความเดือดร้อนให้เราในนาทีสุดท้ายหรือไม่

 

สนับสนุนโดย.  ufabet