คุณแม่ลูกสามสุดช้ำ เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอนำมาเปิดเผยผ่านทางเว็บ ct want เมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคม ปีพศ. 2565

สำหรับปัญหาที่หญิงสาวรายนี้ได้นำมาเผยนั้นเป็นปัญหาภายในครอบครัวซึ่งเธอนั้นรู้สึกเศร้าและเป็นกังวลใจและเธอไม่รู้ว่าเธอจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้อย่างไรจึงได้มาโพสต์ระบายความรู้สึกของตนเองลงในโซเชียล

       สำหรับปัญหาของหญิงสาวรายนี้เธอเล่าว่าเธอแต่งงานและมีลูก  ทั้งสิ้น 3 คนด้วยกันอย่างไรก็ตามเธอเกิดอาการสงสัยว่าสามีของเธอจะนอกใจไปมีผู้หญิงคนอื่นในช่วงที่เธอตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3  เนื่องจากว่าสามีของเธอได้จ้างแม่บ้านมาทำงานบ้านและช่วยเธอเลี้ยงลูก ซึ่งหลังจากที่แม่บ้านหญิงเข้ามาทำงานให้กับเธอปรากฏว่าสามีของเธอก็มีพฤติกรรมที่แปลกไป 

       อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ได้นำเรื่องราวที่เธอรู้สึกไม่สบายใจไปเล่าให้ครอบครัวของเธอและครอบครัวของสามีฟัง

แต่ทุกคนก็มองว่าเป็นเรื่องที่เธอคิดมากจนเกินไปและสามีของเธอยังคงเป็นคนที่รักเธอและครอบครัวรักลูกๆอยู่และไม่มีทางที่จะนอกใจเธออย่างแน่นอนให้เธอสบายใจซึ่งเธอนั้นก็พยายามไม่คิดมากจนเมื่อถึงเวลาที่เธอคลอดลูกและเธอต้องพักฟื้นอยู่ที่ศูนย์พักฟื้นซึ่งเป็นช่วงเดือนประมาณสิงหาคม  ปรากฏว่าลูกชายของเธอได้เล่าให้เธอฟังว่าเห็นพ่อกับพี่เลี้ยงเด็กกอดกันซึ่งลูกชายของเธออายุเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น 

        เมื่อหญิงสาวรายนี้ได้รับฟังเรื่องราวจากลูกชายจึงได้มีการให้เพื่อนสนิทนำกล้องวงจรปิดไปอาบติดตั้งไว้ภายในบ้านทำให้เธอนั้นได้เห็นพฤติกรรมของพี่เลี้ยงและสามีของเธออย่างชัดเจนโดยเธอเห็นพี่เลี้ยงและสามีของเธอมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งในห้องครัว  ufabet     เรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมากเธอต้องนอนร้องไห้อยู่หลายวันแต่ก็ยังไม่สามารถทำใจได้และยังไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับเรื่องนี้อย่างไรดี

       อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสำหรับใครหลายๆคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ยังตัดสินใจที่จะออกมาจากปัญหาครอบครัวโดยมาใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆของพวกเธอแทนแต่สำหรับหญิงสาวรายนี้เธอได้มีการโพสต์ลงในโซเชียลว่าที่เธอไม่สามารถตัดสินใจได้นั้นก็เพราะว่าสามีของเธอนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มบ่อกุ้งซึ่งตัวเธอเองนั้นไม่ได้มีเงินเพราะหลังจากที่เธอแต่งงานเธอก็ให้สามีเลี้ยงดูมาโดยตลอดและในขณะนี้เธอมีลูกเล็กๆ 13 คนด้วยกันถ้าหากว่าเธอ ตัดสินใจหย่ากับสามีแล้วมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเองเธอก็กลัวว่าจะดูแลลูกๆได้ไม่ดี 

        อย่างไรก็ตามชาวโซเชียลแนะนำว่าหญิงสาวรายนี้ควรที่จะเก็บหลักฐานการเป็นชู้ของสามีของเธอกับพี่เลี้ยงเอาไว้หลังจากนั้นพยายามโอนถ่ายทรัพย์สินของสามีมาเป็นของเธอแล้วค่อยหย่าและทำการฟ้องร้องสามีและชู้อีกทีภายหลัง 

        จากกรณีที่มีคนพบศพชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ถูกหั่นออกเป็นชิ้นชิ้นรอยแม่น้ำเจ้าพระยาและติดตามตลิ่งทั้งบริเวณตลิ่งหน้าวัดรวมถึงตลิ่งท่าเรือของทหารเรือ

    คดีอาจพลิก ศพสาวสักยันต์ ซึ่งชิ้นส่วนที่ถูกพบนั้นถูกตัดคอตัดท่อนบนเรียกได้ว่าศพกระจัดกระจายลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยาเยอะแยะไปหมดซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบหลักฐานจากรอยสักยันต์ทางด้านหลังของศพนั้นก็พบว่ามีญาติของศพได้มาทำการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าศพดังกล่าวนั้นเป็นของนางสาวมณีรัตน์อายุ 29 ปีซึ่งหายตัวออกไปจากบ้านขาดการติดต่อจากคนในครอบครัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565  ที่ผ่านมา 

         อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวนั้นญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตยืนยันต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามติดตามหาถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการฆาตกรรมในครั้งนี้โดยมีการตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดนับตั้งแต่ห้องพักของผู้ก่อเหตุไปตามถนนที่ทางผู้ก่อเหตุเดินทางไปเรื่อยๆ

          นอกจากนี้ยังมีการแฮกข้อมูลใน Facebook ของผู้เสียชีวิตด้วยพบว่าก่อนเสียชีวิตนั้นทางผู้เสียชีวิตได้มีการโพสต์ข้อความเป็นปริศนาคล้ายกับกำลังตัดพ้อคนรู้จักวัดหาเขา หายสาบสูญไปจะมีคนเสียใจกับการหายของเขาไปหรือไม่ซึ่งทำให้สันนิษฐานได้ว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่คดีฆาตกรรม

          อย่างไรก็ตามเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแกะรอยตามกล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆก็พบว่าในช่วง เช้าตรู่ของวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565

ทางผู้เสียชีวิตได้ขึ้นและแท็กซี่จากที่พักซึ่งมีการเปลี่ยนรถแท็กซี่ 2 ครั้งโดยครั้งสุดท้ายนั้นได้ให้รถแท็กซี่ไปส่งที่บริเวณสะพานพระราม 8 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการเรียกสอบแท็กซี่ทั้ง 2 คันโดยให้ข้อมูลตรงกันว่าในช่วงเช้าขึ้นแท็กซี่ 1 คัน

           หลังจากนั้นก็ลงจากรถแท็กซี่แล้วไปต่อแท็กซี่อีก 1 คันโดยไปถึงสะพานพระราม 8 ในช่วงเวลาเกือบเที่ยงวันแล้วหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการตรวจหากล้องวงจรปิดแถวสะพานพระราม 8 ซึ่งสามารถถ่ายให้เห็นภาพว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่บนสะพานพระราม 8 อยู่หลายครั้งหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็กระโดดลงจากสะพาน ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา

             อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าสรุปแล้วหญิงสาวที่เดินไปเดินมาและกระโดดจากสะพานลงแม่น้ำนั้นใช่นางสาวมณีรัตน์คนเดียวกันหรือไม่ซึ่งถ้าหากว่าเป็นคนเดียวกันก็เป็นไปได้ว่านางสาวมณีรัตน์นั้นได้ฆ่าตัวตายเองและไม่มีการฆาตกรรมใดๆเกิดขึ้นซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะมีการแถลงการณ์อีกครั้งหนึ่ง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

          เมื่อวันที่ 28 เดือนมีนาคมปีพศ. 2565 ช่วงเวลา 13:00 น   เจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตํารวจวารินชําราบได้รับแจ้งจากพลเมืองดี

ตำรวจจับกุมลูกเลี้ยง ว่าพบโครงกระดูก  อยู่แถวบริเวณด้านหลังของโรงงานร้างแห่งหนึ่งซึ่งจุดที่พบโครงกระดูกนั้นเป็นป่าละเมาะ  อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุและมีการตรวจสอบหลักฐานต่างๆรวมถึงติดตามประวัติคนหายจากที่มีการแจ้งความเอาไว้จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นชายคนหนึ่งซึ่งมีการแจ้งว่าหายตัวมานานเกือบเดือนแล้ว  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงมือสืบสวนสอบสวน

         ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกมาพูดถึงความคืบหน้ากรณีพบโครงกระดูกอยู่ที่บริเวณป่าหลังโรงงานร้างว่าผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านายสุเทพและผู้กระทำความผิดในการฆ่านายสุเทพนั้นก็เป็นลูกเลี้ยงของผู้ตายและเพื่อนของลูกเลี้ยงนั่นเองนอกจากนี้ยังมีภรรยาของผู้ตายร่วมรู้เห็นเหตุการณ์กับการก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ด้วย 

      จากการให้คำของเพื่อนของลูกเลี้ยงระบุว่าผู้เสียชีวิตนั้นมักจะทะเลาะกับแม่ของคนร้ายอยู่เป็นประจำเนื่องจากเกิดการหึงหวงกันเกิดขึ้นและมักอะมีการตบตีแม่ของคนร้ายทำให้คนร้ายนั้นไม่พอใจซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นพ่อเลี้ยงกับแม่ก็มีการทะเลาะกันอีกครั้งหนึ่งหลังจากนั้นลูกเลี้ยงจึงได้ชักชวนเพื่อนเพื่อหวังมาทำร้ายร่างกายพ่อเลี้ยงแต่ถูกพ่อเลี้ยงใช้มีดไล่ขู่ทำร้ายจึงพากันวิ่งหลบหนี

       หลังจากที่หลบหนีออกมาจากบ้านของพ่อเลี้ยงได้สำเร็จแม่จึงได้มีการโทรตามลูกชายให้มาวางแผนการฆ่าพ่อเลี้ยงโดยมีการนำเพื่อนคนอื่นประมาณ 6 คนหลังจากนั้นก็มีการโทรตามพ่อเลี้ยงออกมายังจุดเกิดเหตุและลงมือทำร้ายร่างกายโดยการใช้ไม้ฟาดรวมถึงใช้มีดแทงจนพ่อเลี้ยงเสียชีวิต  

          จากนั้นลูกเลี้ยงจึงได้ไปนำรถกระบะจากบ้านของยายที่อยู่ในอำเภอวารินชำราบมาขนส่งของพ่อเลี้ยงแล้ว  ufabet     ตะเวนขับรถไปตามท้องถนนเรื่อยๆเพื่อหาจุดทิ้งศพและมาเจอโรงงานร้างแห่งหนึ่งซึ่งด้านหลังนั้นเป็นป่ารกทึบเหมาะแก่การนำศพมาทิ้งหลังจากที่ถูกนำมาทิ้งเรียบร้อยแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตนเองโดยรถมอเตอร์ไซค์ของพ่อเลี้ยงที่เสียชีวิตนั้นก็ถูกนำไปชำระชิ้นส่วนเพื่อไม่ให้สามารถติดตามหาร่องรอยได้หลังจากนั้นแม่ของผู้ก่อเหตุก็ได้ไปแจ้งความคนหายเอาไว้ 

       เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งกำลังทำการแจ้งข้อหาของคนร้ายแต่ละคนแล้วซึ่งมีผู้เห็นเหตุการณ์ในการฆาตกรรมครั้งนี้อยู่ประมาณ 7 คนด้วยกันแต่ผู้ลงมือกระทำความผิดนั้นมีอยู่ประมาณ 2 คน 

         ตำรวจจับผัวโหด  จากกรณีที่มีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 เดือนเมษายน  ปี พ.ศ. 2565 ได้มีเหตุการณ์สามีใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาภรรยาจนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งในขณะนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ที่ทางโรงพยาบาล

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนบริเวณชั้นล่างของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งแถวบริเวณซอยพหลโยธิน 48 แยก 17/1 กรุงเทพฯ   

          สำหรับการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นนั้นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ใดให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคนที่ลงมือก่อเหตุจุดไฟเผาหญิงสาวก็คือสามีหลังจากที่จุดไฟเผาเมียตนเองเสร็จแล้วก็ได้มีการขับรถหลบหนีไปอย่างไรก็ตามล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกมาแถลงการณ์เมื่อช่วงประมาณบา่ยโมงตรง ของวันที่ 10 เดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2565

ว่าในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้เรียบร้อยแล้วด้วยไปเจอผู้กระทำความผิดหลบหนีอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานีซึ่งอยู่แถวบริเวณตลาดคลองถมเมืองการุ้งถนนเทศบาลโดยได้มีการเข้าจับกุมในช่วงเวลาเช้าของวันที่ 10 เดือนเมษายนนั่นเอง 

           จากการเปิดเผยของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการระบุว่าทางฝ่ายสืบสวนได้มีการตรวจสอบประวัติของคนร้ายว่าเป็นคนในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานีทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. บางเขนมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายภรรยาของตนเองแล้วนายสำเริงผู้ก่อเหตุนั้นน่าจะเดินทางขับรถกลับไปยังบ้าน เกิดของตนเองดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการสั่งชุดไล่ล่าติดตามคุมตัวไปที่จังหวัดอุทัยธานีซึ่งสามารถจับกุมได้ในระหว่างการเดินทางหลบหนี 

              จากคำให้การของคนร้ายระบุว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายภรรยาด้วยกัน  เครดิตฟรี gclub    น้ำมันก๊าดมาราดและจุดไฟเผาจริงสาเหตุนั้นก็เพราะว่าเกิดความหึงหวงเนื่องจากว่าระแวงว่าเมียของตนเองนั้นจะมีผู้ชายคนอื่นนอกจากนี้ผู้ก่อเหตุจึงระบุได้ว่ามีข้อมูลหลักฐานหนาแน่นว่าเมียของตนเองนั้นคบกับผู้ชายคนอื่นและคิดว่าเมียของตนเองต้องมีชู้อย่างแน่นอน

         ทางผู้ก่อเหตุยังเล่าด้วยว่าก่อนที่จะมีการนำน้ำมันก๊าดไปจุดไฟเผาภรรยานั้นได้กินเหล้าขาวย้อมใจหลังจากนั้นเมื่อเดินทางมาถึงคอนโดที่พักพบภรรยาอยู่กับผู้ชายที่คิดว่าเป็นชู้กันจึงได้ตัดสินใจนำน้ำมันที่ซื้อมาล่าใส่รถของผู้ชายแล้วจุดไฟเผาหลังจากนั้นก็มาราดใส่เมียของตนเองและจุดไฟเผาก่อนที่จะขับรถหลบหนี

         หลังจากที่คนร้ายพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็ได้มีการฝากขอโทษไปยังเมียของตนเองที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งตอนที่ทำลงไปนั้นทำไปเพราะความโมโหไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุทำร้ายภรรยาจริงๆไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน

     เหลนขาดยาอาการกำเริบ  เมื่อวันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ 2565   ช่วงเวลาประมาณ 9:45 น เจ้าหน้าที่ตำรวจสนลาดพร้าวได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่าที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งมีผู้เสียชีวิต

เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายโดยอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ลาดพร้าวซึ่งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 117   หลังจากได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลทันที

       เมื่อเดินทางไปถึงอพาร์ทเม้นท์ที่ถูกแจ้งว่ามีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นนั้นพบว่าเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่มีความสูงทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกันส่วนผู้เสียชีวิตนั้นนอนเสียชีวิตอยู่ที่ห้อง 103 ซึ่งเป็นห้องชั้นล่างสุด  เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิงชราวัย 71 ปีเสียชีวิตจากการถูกมีดแทงตามร่างกายซึ่งนับจำนวนแผลแล้วมีมากกว่า 60 แผลด้วยกันโดยมีแผลฉกรรจ์ประมาณ 26 แผล

        จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นอาจารย์พิเศษสอนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งชื่อว่านางสาวพิมพ์วลัญช์   ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นเป็นคนใกล้ตัวของผู้เสียชีวิตเองนั่นก็คือเหลนของผู้เสียชีวิตและเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในห้องพักเดียวกันกับผู้เสียชีวิตอีกด้วยอย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงนอกจากจะพบผู้เสียชีวิตแล้วยังพบผู้ก่อเหตุซึ่งนั่งอยู่บริเวณข้างเตียงของผู้เป็นย่าในอาการสงบนิ่ง 

         ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการเก็บหลักฐานต่างๆภายในห้องที่เกิดเหตุและนำตัวผู้ก่อเหตุเดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน  จากคำให้การของพยานซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุระบุว่าทางผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุนั้นเป็นย่ากับเหลนกันและอาศัยอยู่ด้วยกันโดยผู้คนส่วนใหญ่มักจะเห็นว่าทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันเลยและรักใคร่กันดีส่วนผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเหลนนั้นก็เป็นคนที่มีความสุภาพเวลาที่ย่าเอาข้าวมาให้กินก็จะยกมือไหว้ย่าทุกครั้งดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นมาจากอะไร 

          อย่างไรก็ตามมีพลเมืองดีบางคนให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุนั้นเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อนและมีอาการทางประสาทซึ่งคนในครอบครัวได้มีการพาไปรักษาจนหายแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าอาการทางประสาทจะกลับมากำเริบจนก่อเหตุฆ่าผู้เป็นย่าของตนเองหรือไม่

         ผลจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุให้การยืนยันว่าปกติแล้วไม่ค่อยได้อยู่กับผู้เป็นย่าพึ่งมาอาศัยอยู่กับผู้เป็นยาเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเท่านั้นแต่หลังจากที่ย้ายมาอยู่ภายในห้องเดียวกันผู้ก่อเหตุมักจะถูกผู้เป็นย่าด่าทอเป็นประจำทำให้รู้สึกเก็บกดดังนั้นก่อนวันเกิดเหตุ 1 วันช่วงเวลาประมาณ 09:00 น จึงได้เดินทางไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อทำการซื้อมีดมาเก็บเอาไว้และในวันเกิดเหตุนั้นผู้เป็นย่าได้ด่าทออีกครั้งหนึ่งจึงทำให้ไม่สามารถเก็บอาการไม่พอใจเอาไว้ได้จึงใช้มีดที่ซื้อมาลงมือทำร้ายร่างกายผู้เป็นย่าเสียชีวิตก่อนที่จะมีการโทรแจ้งตำรวจ

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนัน ufabet

      พบศพ แม่-ลูก กินยาฆ่าแมลงตาย   เมื่อวันที่ 17เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565   ที่ ตำบลแม่ยม อำเภอเมือง  จังหวัดแพร่   ได้มีคนไปพบศพหญิงสาวอายุ 34 ปี

พร้อมกับเด็กหญิงอายุ 3 ขวบนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง  ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน  โดยสภาพศพนั้นนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนลักษณะของศพริมฝีปากมีสีม่วงคล้ำซึ่งด้านข้างของศพนั้นยังพบยาฆ่าแมลงและแก้วน้ำ  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย

เนื่องจากในห้องที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้เข้าของยังคงวางไว้อย่างเป็นระเบียบและที่สำคัญมีจดหมายวางไว้ข้างศพซึ่งวางเอาไว้ใต้บัตรประชาชนของผู้ตายโดยใจความจดหมายได้มีการเขียนบรรยายถึงปัญหาชีวิตของตนเองพร้อมกับเขียนอาฆาตแม่ผัวเป็นจดหมายที่ผู้ตายเขียนเอง

          สำหรับใจความจดหมายนั้นมีการระบุว่าในวันที่แม่ลูกคู่นี้ได้มีการตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายนั้นเป็นวันครบรอบที่เธอกับสามีของเธออย่าขาดจากกันครบ 1 เดือนส่วนสาเหตุที่ทำให้เธอกับสามีของเธอต้องเลือกอันนั้นมาจากแม่ของสามีซึ่งเข้ามายุ่งเกี่ยวในชีวิตครอบครัวของเธอจนในที่สุดครอบครัวของเธอก็ต้องพังทลายลง

       นอกจากนี้ผู้ตายยังเขียนเพิ่มเติมด้วยว่าสามีของเธอเป็นคนที่ไม่ทำการทำงานเป็นคนที่ไม่หาเงินมาเลี้ยงดูเธอและลูกปล่อยให้เธอนั้นหาเงินเลี้ยงดูลูกแต่เพียงลำพังเท่านั้นและ สามีของเธอยังไม่เคยช่วยเหลือเธอเวลาที่แม่ของสามีมาต่อว่าเธอทำให้เธอนั้นเกิดอาการน้อยใจเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามผู้ตายยังได้เขียนในจดหมายยืนยันว่าการตายในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของผู้ตายเองที่จะจบชีวิตของตัวเองและลูกหลง

        จากการให้ปากคำของคนที่พบศพคนแรกและเป็นเพื่อนของผู้ตายรวมถึงเป็นเจ้าของบ้านหลังที่ผู้ตายอาศัยอยู่และฆ่าตัวตายนั้นระบุว่าผู้ตายมักจะเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับสามีอยู่เสมอซึ่งผู้ตายเดินทางมาหาเพื่อขอนอนอาศัยด้วยโดยอ้างว่าจะมานอนเล่นประมาณ 3-4 ขึ้นซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใดมักจะพาลูกมานอนเล่นที่บ้านของเธอเป็นประจำ

      อย่างไรก็ตามในวันเกิดเหตุนั้นผู้ตายได้ขอให้เพื่อนไปช่วยซื้อน้ำแข็งให้หลังจากได้มาแล้วก็นำน้ำแข็งเข้าไปในห้องนอนซึ่งเพื่อนของผู้ตายคิดว่าเอาไปชงเครื่องดื่มกินกับลูกสาวจึงไม่ได้สนใจอะไรจนตกเย็นช่วงประมาณ 17:00 น จึงได้มาเคาะประตูห้องเพื่อเรียกผู้ตายออกไปกินอาหารเย็นปรากฏว่าไม่มีการตอบรับเงินของผู้ตายจึงได้ตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบว่าผู้ตายกับลูกสาวได้เสียชีวิตลงแล้วจึงได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า gclub มือถือ

แขกถูกโรงแรมคิดค่าปรับเป็นหมื่น  เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Sora New 24

ได้มีการนำเรื่องราวที่มีการโพสต์ลงในเว็บไซต์ที่เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของข้อกฎหมายข่าวสารต่างๆโดยเว็บไซต์ดังกล่าวชื่อว่า เบนโกซิ ดอทคอม  ซึ่งไม่มีข้อกฎหมาย 1 ที่กำลังมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นจึงได้มีการนำเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อทางโรงแรมแห่งหนึ่ง

ซึ่งทางเว็บไซต์ไม่ได้มีการระบุชื่อว่าเป็นโรงแรมไดแต่ระบุเพียงว่าโรงแรมดังกล่าวได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากแขกที่มาเข้าพักรายหนึ่งโดยข้อเรียกร้องนั้นต้องการให้แพะแขกที่เข้าพักจ่ายเงินเป็นเงินค่าปรับประมาณสี่หมื่นเยน 

          สำหรับเหตุผลที่ทางโรงแรมต้องมีการเรียกเก็บเงินค่าปรับกับทางแขกที่เข้าพักนั่นก็เพราะว่าในระหว่างที่แขกมีการเช็คอินเข้าพักในห้องพักของโรงแรมได้มีการใช้อุปกรณ์ภายในห้องพักผิดวิธีนั่นก็คือแขกได้มีการใช้กาต้มน้ำไปทำงานต้มปูกินภายในห้องพักซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้ผิดวิธีถึง 2 ครั้งด้วยกันปัญหาดังกล่าวส่งผลทำให้ภายในห้องพักมีกลิ่นที่ทำให้ทางด้านโรงแรมต้องมีการกำจัดกลิ่นและเสียระยะเวลาในการจำกัดกลิ่นหลายวันซึ่งในระหว่างที่ต้องมีการกำจัดกลิ่นนั้นทางโรงแรมก็จะเสียรายได้จากการเปิดให้แขกเข้าพักดังนั้นจึงต้องมีการคิดเป็นเงินค่าปรับในการเสียเวลาและในค่าดำเนินการการกำจัดกลิ่นนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามปรากฏว่าแขกที่มาเข้าพักไม่พอใจที่มีการถูกเรียกเก็บค่าปรับซึ่งทางด้านโรงแรมก็มีการปรับลดให้จาก 40 เหลือเพียงแค่ 17000 เยนเท่านั้นแต่ทางแขกที่มาเข้าพักก็ยังยืนยันว่าจะไม่ยอมจ่ายค่าปรับใดๆทั้งสิ้นนอกจากนี้ทั้งแขกที่มาเข้าพักยังมีการอ้างด้วยว่าทางโรงแรมไม่ได้มีการเขียนระบุเอาไว้ว่ากาต้มน้ำไฟฟ้าห้ามเอาไปใช้ทำอย่างอื่นนั่นคือไม่ได้มีการเขียนเอาไว้ว่าห้ามนำมาต้มปูกินเพราะฉะนั้นแขกที่เข้าพักจึงไม่ถือว่าตนเองทำผิดกฎของทางโรงแรมแต่อย่างใดนอกจากนี้แขกที่เข้าพักยังอ้างได้ว่ากลิ่นเหม็นภายในห้องพักไม่น่าจะรุนแรงเพราะตลอดระยะเวลาที่เขาได้มีการทำอาหารกินในห้องเขาก็ได้มีการเปิดเครื่องฟอกอากาศให้ทำงานด้วย

         อย่างไรก็ตามทางโรงแรมยืนยันที่จะมีการคิดค่าปรับกับทางลูกค้าจึงได้มีการส่งเรื่องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายยืนยันว่าจะต้องให้ลูกค้านะจะโอนเงินค่าปรับเรื่องนี้หลังจากที่มีการเผยแพร่ออกไปลงในโลกออนไลน์ผู้คนส่วนใหญ่ก็เข้ามาเข้าข้างทางฝั่งเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเพราะการที่ทางโรงแรมไม่ได้มีการเขียน เกี่ยวกับกฎการใช้กาต้มน้ำไม่ให้นำไปต้มตัดแต่แขกที่เข้าพักก็ควรจะทราบดีอยู่แล้วว่ากาต้มน้ำเอาไว้ใช้สำหรับทำอะไร 

          นอกจากนี้ทางด้านทนายความซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายยืนยันว่าถึงแม้ทางโรงแรมจะไม่ได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนแต่ตอนที่มีการเช็คอินนั้นก็จะมีการเซ็นสัญญาการเข้าพักอยู่แล้วว่าถ้าหากว่าลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมสร้างความเสียหายหรือประพฤติตัวไม่ดีที่ทำให้โรงแรมเสียชื่อเสียงก็สามารถที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายได้เช่นกัน 

      

สนับสนุนโดย    gclub ทดลองเล่นฟรี