เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอได้มีการลาออกจากการเป็นครูด้วยหญิงสาวรายนี้ชื่อว่าศิริมาศ   เธอได้มีการเล่าประวัติความเป็นมาของโปสการ์ดที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นโปสการ์ดสีชมพูสดใสแต่ข้อความในโปสการ์ดไม่ใช่ข้อความที่ประกาศเกี่ยวกับเรื่องของงานบุญแต่เป็นโปสการ์ดที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อประกาศว่าเธอได้สิ้นสุดการเป็นข้าราชการครูแล้วโดยมีผลไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 นอกจากนี้เธอยังได้ระบุสาเหตุของการลาออกจากราชการครูด้วยว่าเธอไม่สามารถที่จะทำให้งานอาชีพครูนั้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเธอได้เมื่อเธอไม่ยอมรับเธอจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนงานแทนเนื่องจากอาชีพครูนั้นไม่ใช่ตัวตนของเธอนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามนางสาวศิริมาศได้มีการกล่าวกับสำนักข่าวไทยพีบีเอสว่าสาเหตุที่เธอต้องออกมาทำโปสเตอร์นั้น  มิติใหม่ของการลาออก    เป็นเพราะเธอเห็นว่าในช่วงที่เธอได้บรรจุเป็นข้าราชการครูใหม่ๆเธอไม่ได้มีการทำโปสเตอร์อวยพรให้กับตนเองเห็นว่าวิธีการนี้ดูน่ารักดีเธอก็เลยทำแต่ก็ถูกแชร์กันในโลกออนไลน์เพราะทำให้ถูกใจคนในโลกออนไลน์เพียงเท่านั้นเอง

         สำหรับเรื่องราวของนางสาวศิริมาศนั้นเกิดจากการที่เธอนั้นเติบโตมาจากครอบครัวข้าราชการครูไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือญาติพี่น้องนั้นก็เป็นครูกันทุกคนในตอนแรกเธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาเป็นคุณครูแต่เนื่องจากว่าเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเธอเกิดสอบติดวิชาชีพครูจึงได้ทดลองเรียนดูและพยายามศึกษาหาความรู้จนเธอเกิดความรู้สึกอยากจะทำอาชีพครูขึ้นมาหลังจากที่เธอเรียนจบแล้วเธอก็ได้มีการบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งโรงเรียนที่เธอไปสอนนั้นมีนักเรียนเพียงแค่ประมาณ 300 คนเพียงเท่านั้นโดยไม่มีการเปิดชั้นเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3

             อย่างไรก็ตามภายในโรงเรียนนั้นกลับมีคุณครูประมาณ 20 คนเพียงเท่านั้นซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อไปนักเรียน  ufabet เว็บตรง   ดังนั้นครูหลายคนจึงมีหลายหน้าที่เพราะนอกจากจะต้องสอนหนังสือแล้วก็ยังต้องทำหน้าที่อื่นด้วยอย่างเช่นงานเอกสารหรืองานดูแลวัสดุต่างๆนอกจากนี้ครูบางคนยังต้องมีการสอนควบวิชาด้วยซึ่งตัวเธอเองนั้นก็สอนสองวิชา

          อย่างไรก็ตามนางสาวศิริมาศมองว่าหลังจากที่เธอไม่ได้มาทำงานเป็นครูในโรงเรียนแห่งนี้แล้วเธอรู้สึกว่าอาชีพของครูนั้นไม่ได้ทำเพียงแค่การสอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่เธอต้องทำหลายหน้าที่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเอกสารซึ่งเป็นงานที่เธอไม่ถนัดนอกจากนี้คุณครูเก่าๆที่อยู่ภายในโรงเรียนก็ไม่ค่อยแนะนำข้อมูลการทำเอกสารให้ทำให้เธอรู้สึกเบื่อและท้อเป็นอย่างมากจนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะมาประเมินตัวเองและลาออกจากการเป็นครู

           เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งเธอเป็นคนประเทศมาเลเซียได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวของเธอผ่านทาง Tiktok โดยเธอนั้นได้มีการโพสต์เป็นคลิปให้เห็นว่าเธอได้ไปร่วมงานแต่งงานแห่งหนึ่งโดยภายในงานนั้นมีการจัดไว้อย่างหรูหรามีการตกแต่งด้วยโทนสีขาวสวยงาม  

        สาวสุดช้ำผัว หลอกไปงานแต่ง อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอนำมาโพสต์นั้นเธอได้มีการเล่าเพิ่มเติมด้วยว่างานแต่งงานที่เธอถ่ายคลิปเอาไว้นี้เธอถูกหลอกให้มาโดยสามีของเธอนั้นเป็นผู้หลอกลวงให้เธอมาร่วมงานหญิงสาวเราว่าสามีของเธอได้ชักชวนให้เธอมางานแต่งงานพร้อมกับให้เธอนั้นใส่ชุดสีขาวซึ่งตัวสามีของเธอนั้นเองก็ใส่ชุดสีขาวเหมือนกันโดยระบุว่าจะได้ใส่เสื้อผ้าที่แมทช์กันซึ่งการมาร่วมงานแต่งงานในครั้งนี้เธอไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้นเป็นใครแต่เธอก็ตามสามีของเธอมาร่วมงาน

           อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมาถึงงานแต่งงานปรากฏว่าเธอต้องช็อกอย่างหนักเมื่อเธอมารับรู้ภายหลังจากที่เธอมาถึงงานแต่งงานแล้วว่าเจ้าบ่าวของเจ้าสาวในงานแต่งงานในครั้งนี้ก็คือสามีที่พาเธอมางานแต่งงานในครั้งนี้นั่นเองโดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าสามีของเธอนั้นต้องการที่จะรับภรรยาคนที่ 2 มาไว้ในครอบครัวไม่ได้มีการบอกกับเธอล่วงหน้ามาก่อนเขาหลอกให้เธอมาร่วมงานแต่งงานและมาเป็นสักขีพยานในงานแต่งงานของสามีเหมือนกับเป็นการมัดมือชกให้เธอนั้นต้องยอมรับภรรยาของที่ 2 ของสามีของเธอนั่นเอง

            อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ระบุว่าในช่วงจังหวะที่ใช้อยู่ในงานแต่งงานนั้นเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีเธอรู้สึกช็อกและเธอทำอะไรไม่ถูกเธอไม่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำได้แต่เพียงนั่งอยู่ในงานแต่งงานจนกว่าพิธีจะจบและยอมรับให้สามีของเธอนะมีภรรยาคนที่ 2 ซึ่งเธอนั้นรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

           หลังจากเรื่องราวของหญิงสาวชาวมาเลเซียรายนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ผู้คนต่างก็พากันไม่พอใจการกระทำของสามีของหญิงสาวรายนี้โดยมองว่าสามีนั้นควรจะต้องนึกถึงจิตใจของภรรยาควรจะต้องมีการบอกภรรยาก่อนว่าตนเองต้องการที่จะมีภรรยาคนที่ 2 และมีการพูดคุยตกลงให้ภรรยาคนแรกสามารถยอมรับได้ก่อนไม่ควรหลอกลวงกันเช่นนี้เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เห็นใจและไม่แคร์ภรรยาของตนเองเลย 

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้เธอได้มีการโพสต์ระบุสภาพจิตใจของเธอในขณะนี้ว่าบางครั้งเธอรู้สึกว่าเธอเศร้าเป็นอย่างมากแต่บางครั้งเธอก็รู้สึกว่าเธอสามารถยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยอมตามใจสามีเพราะเธอมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นความต้องการของพระเจ้าก็เป็นได้ทำให้เรื่องทุกอย่างนั้นดำเนินต่อไปแบบนี้ซึ่งเธอยืนยันว่าเธอยอมรับสภาพกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าใจของเธอนั้นจะไม่สามารถยอมรับได้ก็ตาม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

       เมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565 ที่จังหวัดปทุมธานีแถวบริเวณซอยเรณูอุทิศได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ขึ้นภายในรถกระบะคันหนึ่งซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 รายเป็นพ่อลูกกันและเสียชีวิต 1 รายในเวลาต่อมา

      สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้เป็นพ่อชื่อว่านายทองได้มีการขับรถออกไปจากที่พักแล้วไปประสบอุบัติเหตุขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งขี่รถพ่วงกำลังจะเลี้ยวเข้าวัดโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวเสียชีวิตคาที่ส่วนด้านายทองที่เป็นผู้ขับรถชนนั้นก็ได้ขับรถหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุทันที 

        อย่างไรก็ตามในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุคนขับรถชนกัน  ในขณะเดียวกันนั้นก็ได้รับการแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุคนถูกไฟไหม้ที่ชุมชนแห่งหนึ่งเช่นเดียวกัน   อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนพบว่าอุบัติเหตุทั้งสองอย่างนั้นมีความเกี่ยวโยงกันเนื่องจากว่าคนที่ก่อเหตุขับรถชนคนเสียชีวิตนั้นคือนายทองซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่ประสบอุบัติเหตุถูกไฟไหม้ที่ซอยในชุมชนแห่งหนึ่งนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ไฟไหม้นั้นเกิดขึ้นเมื่อนายทองขับรถชนคนเสียชีวิตแล้วได้ขับรถกลับมาที่ห้องพักของตนเองหลังจากนั้นก็ได้มีการเรียกลูกชายซึ่งอายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้นขึ้นมาบนรถแล้วนายทองก็ใช้น้ำมันราดเข้ามาในตัวรถและจุดไฟเผาซึ่งจะเป็นการฆ่าตัวตายทั้งตนเองและลูกแต่บังเอิญว่าหลังจากไฟลุกไม่ได้สักพักเด็กชายวัย 4 ขวบได้เปิดประตูรถลงมาแล้ววิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

          โดยเด็กชายต้องการให้ชาวบ้านนั้นไปช่วยเหลือพ่อของตนเองที่ถูกไฟเผาไหม้ในขณะเดียวกันเด็กชายวัย 4 ขวบก็ถูกไฟไหม้ร่างกายมีแผลเวอะหวะถลอกรวมถึงมีเลือดไหลตามร่างกายเต็มไปหมดแต่ในขณะเดียวกันหนูน้อยยังมีใจสู้พยายามที่จะลากสายยางเพื่อนำน้ำไปฉีดพ่นดับไฟให้กับผู้เป็นพ่อโดยมีชาวบ้านนั้นให้ความช่วยเหลือพาเด็กชายส่งโรงพยาบาลและบางส่วนก็มาช่วยเหลือนายทองซึ่งถูกไฟไหม้จนสลบ

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่เด็กชายถูกส่งตัวเข้าห้อง ICU อยู่ได้ไม่นานช่วงเวลาประมาณ 01:00 น ก็เสียชีวิตลงในขณะที่ผู้เป็นพ่อนั้นยังคงมีอาการสาหัสและยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU   ในขณะเดียวกันเบื้องต้นชาวบ้านให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสาเหตุของการกระทำในครั้งนี้น่าจะเกิดจากความเครียดที่นายทองอาจจะขับรถไปชนคนเสียชีวิตมานอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของหนี้สินและที่สำคัญภรรยาของนายทองได้พาลูกสาวอีกคนหนึ่งเดินทางไปประเทศเมียนมาร์และยังไม่กลับมาซึ่งคาดว่าเหตุผลต่างๆเหล่านี้ทำให้นายทองเครียดจนเกิดการตัดสินใจก่อเหตุสลดในครั้งนี้

 

สนับสนุนโดย    ยู ฟ่า สล็อต อันดับ 1

        ดราม่า รถหรู สวมทะเบียนปลอม  เมื่อวันที่ 29 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ผ่านทาง Social Media ประกาศตามหารถหรูยี่ห้อปอร์เช่โดยระบุว่ารถคันดังกล่าวนั้นได้มีการสวมทะเบียนปลอม  

ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ ยังได้มีการโพสต์รูปภาพ  รถยนต์หรู ยี่ห้อปอร์เช่ 2 คันซึ่งจะเห็นได้ว่าคันนึงนั้นเป็นคันสีดำส่วนอีกคันนึงนั้นเป็นคันสีเทา   ซึ่งรถหรูทั้ง 2 คันนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นยี่ห้อปอร์เช่เหมือนกันแต่คนละรุ่นซึ่งคันสีดำนั้นจะเป็นรุ่น taycan  ส่วนคันสีเทานั้นจะเป็นรุ่น cayman 

           อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีปัญหาว่ารถอยู่ทั้ง 2 คันนั้นดันใช้ทะเบียนรถที่เหมือนกันนั่นก็คือ  ร ว ย  9999   ดังนั้นจึงสามารถตีความได้ว่าถึงแม้ว่าจะเป็นรถหรูเหมือนกันยี่ห้อเดียวกันแต่มีรถคันใดคันหนึ่งที่สวมทะเบียนจริงในขณะที่อีกคันนึงนั้นสวมทะเบียนปลอมนั่นเองซึ่งทางเจ้าของโพสต์ยืนยันว่ารถของเธอนั้นเป็นรถที่สวมทะเบียนจริงโดยเธอ ระบุว่าทะเบียนรถ   ร ว ย 9999 นั้นมีมูลค่าถึง 18.5 ล้านบาทเลยทีเดียว

              ซึ่งเจ้าของโพสต์ระบุว่าตัวเธอนั้นได้มีการประมูลมาแล้วนำมาใส่รถของตนเอง  ซึ่งรถของเธอนั้นเป็นยี่ห้อปอร์เช่คันสีเทารุ่น  cayman  นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ยังได้มีการโพสต์เล่มทะเบียนรถซึ่งมีการระบุเลขที่ทะเบียนรถพร้อมกับระบุยี่ห้อของรถและสีของตัวรถรวมถึงรุ่นของรถที่ใช้เลขทะเบียนเล่มนี้อีกด้วย   นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ยังระบุด้วยว่ารถปอร์เช่คันสีดำนั้นมีการสวมทะเบียนปลอม

          ซึ่งเธอต้องการที่จะขอความร่วมมือจากชาวโซเชียลว่าถ้าหากใครพบเห็นรถคันดังกล่าวสามารถส่งเบาะแสมาที่เธอได้เพราะเธอนั้นจะดำเนินเอาผิดตามกฎหมายเนื่องจากว่าเจ้าของรถปอร์เช่คันสีดำนั้นได้มีการทำความผิดกฎหมายในข้อหาปลอมแปลงเอกสารจากทางราชการนอกจากนี้เธอยังหวาดกลัวว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวจะเป็นมิจฉาชีพเอารถไปทำสิ่งผิดกฎหมายซึ่งมันจะส่งผลกระทบมาต่อตัวเธอได้นั่นเอง 

         ภายหลังจากที่หญิงสาวโพสต์ข้อความได้ไม่นานก็มีชาวโซเชียลแห่กันมาให้ข้อมูลรถปอร์เช่รุ่น taycan   คันสีดำที่มีการสวมทะเบียนปลอมกันเยอะแยะมากมายจนทำให้รู้ว่าบ้านเจ้าของรถนั้นอยู่ที่ไหนซึ่งสาวเจ้าของโพสต์ก็ได้มาอัพเดทว่าเธอได้มีการติดตามไปหาเจ้าของรถถึงที่บ้านแต่เจ้าของรถนั้นไหวตัวทันได้หลบหนีออกไปอย่างไรก็ตามเธอประสานงานแจ้งความไว้ที่ สน. บางขุนเทียนแล้วซึ่งเรื่องนี้เธอจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและเธอเชื่อว่าอีกไม่นานทางเจ้าหน้าที่ สน. บางขุนเทียนจะสามารถจับกุมเจ้าของรถที่สวมทะเบียนได้อย่างแน่นอน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    ทางเข้า gclub ใหม่

          สำหรับใครที่คนน้ำหนักเยอะหรือว่าเป็นคนอ้วนนั้นย่อมรู้ดีว่าการที่อยากจะผอมและต้องการให้น้ำหนักตัวของเราลดลงมานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ง่ายๆเลยซึ่งหลายคนก็พยายามหาวิธีการที่แตกต่างกันออกไปบางคนเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการกินยาลดน้ำหนักแต่ก็ไม่สามารถลดน้ำหนักลงมาได้กับอ้วนมากขึ้นกว่าเดิมหรือบางคนนั้นก็มุ่งมั่นหาวิธีการอื่นๆ

ทั้งการควบคุมเรื่องของอาหารการกินและการออกกำลังกายซึ่งวิธีน้ำลดน้ำหนักนั้นมีเยอะแยะมากมาย

          อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงรู้ดีว่าการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารนั้นเป็นวิธีการที่ถูกต้องแต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก  อย่างไรก็ตามได้มีหญิงสาวรายหนึ่งเธอได้มีการโพสต์แชร์วิธีการลดน้ำหนักของเธอลงแอปติ๊กต๊อก โดยระบุว่าเธอนั้นมีการลดน้ำหนักมาเกือบจะ 2 ปีแล้วและน้ำหนักของเธอนั้นก็ลดลงมาถึง 42 กิโลกรัม

ซึ่งถือว่าหญิงสาวรายนี้ประสบความสำเร็จกับการลดน้ำหนักเป็นอย่างมากเลยทีเดียวดังนั้นเธอจึงได้ออกมาแชร์ประสบการณ์วิธีการลดน้ำหนักของเธอโดยวิธีการลดน้ำหนักของหญิงสาวรายนี้เป็นวิธีการที่ง่ายไม่ยุ่งยากและสามารถลดน้ำหนักได้ในราคาประหยัดมาดูกันว่าหญิงสาวรายนี้เขามีวิธีการลดน้ำหนักอย่างไร 

           สำหรับข้อมูลที่ถูกนำมาใช้อันนี้เป็นหญิงสาวชาวสิงคโปร์เธออายุ 35 ปีน้ำหนักเดิมของเธอนั้นอยู่ที่ 110 กิโลกรัมเธอต้องเพ้อกับปัญหาเรื่องของการเหนื่อยง่ายหายใจลำบากดังนั้นเธอจึงจำเป็นที่จะต้องลงมือลดน้ำหนักแล้วเธอก็ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของการลดน้ำหนักซึ่งหญิงสาวรายนี้เธอไม่ต้องการที่จะเข้าฟิตเนสเนื่องจากว่าเธอใช้อุปกรณ์ในห้องฟิตเนสไม่เป็นและที่สำคัญเมื่อเข้าไปในห้องฟิตเนสจะเห็นได้ว่าคนที่เข้าไปออกกำลังกายส่วนใหญ่มีรูปร่างที่ผอมเพียวดังนั้นด้วยน้ำหนัก 110 กิโลกรัมของเธอถ้าเข้าไปในห้องฟิตเนสกลายเป็นว่าเธอเป็นคนที่อ้วนมากที่สุดในห้องดังกล่าวเธอจึงได้เริ่มวิธีการดังต่อไปนี้นั่นก็คือ

           หญิงสาวสิงคโปร์รายนี้นั้นเรื่องที่จะลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารโดยเธอเลือกกินแบบ IF  หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม intermittent fasting  นอกจากนี้เธอยังได้มีการเลือกออกกำลังกายอีกด้วยแต่การออกกำลังกายของเธอนั้นไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใดวิธีการของเธอนั้นเป็นการเดินตามที่สาธารณะหรือโดยรอบหมู่บ้านโดยหญิงสาวรายนี้เลือกเดิน 5 ครั้งต่อสัปดาห์ซึ่งการเดินออกกำลังกายแต่ละครั้งนั้นเธอจะใช้ระยะทางในการเดินประมาณ 6-7 กิโลเมตร  

           อย่างไรก็ตามเธอทำแบบนี้มาเป็นประจำจนในขณะนี้เกือบจะ 2 ปีแล้วน้ำหนักของเธอนั้นลดลงไปถึง 42 กิโลกรัมแล้วซึ่งปัจจุบันจากเดิมที่เคยน้ำหนัก 110 กิโลกรัมก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 68 กิโลกรัมเท่านั้นและหญิงสาวชาวสิงคโปร์รายนี้ก็ยังคงที่จะยึดมั่นในการลดน้ำหนักต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.    สล็อต joker ฝาก-ถอน ไม่มี ขั้นต่ำ

เมื่อวันที่ 8 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565   ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีแตงโมโดยมีการระบุว่ามีคนบนเรือให้ข้อมูล

ซึ่งเป็นประโยชน์โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าได้มีการสอบสวนคนบนเรือมาแล้วทั้งหมด 5 คนด้วยกันโดยมีคนพูดทั้งความจริงแล้วก็มีคนที่พูดโกหกอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า 1 ใน 5 คนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ทขณะที่มีเหตุการณ์แตงโมตกน้ำนั้นได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าในขณะที่พากันล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยานั้นนอกจากที่จะดื่มไวน์แล้วยังมีการใช้สารเสพติดร่วมด้วย

         อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ากำลังหาข้อมูลมาสนับสนุนรวมถึงหาหลักฐานต่างๆมาสนับสนุนว่าคำให้การของหนึ่งในห้าผู้ต้องหาที่ให้การยอมรับสารภาพว่ามีการใช้ยาเสพติดร่วมด้วยนั้นเป็นความจริงหรือไม่นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจากการสอบสวน 1 ใน 5 คนบนเรือนั้นมีคนนึงที่พูดโกหกทุกครั้งที่มีการถูกเรียกตัวมาสอบสวน 

         จากคำให้การของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านับตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 เดือนมีนาคมปีพ.ศ 2555 เป็นต้นมาก็มีการเรียกผู้ต้องหารวมถึงเรียกสอบพยานบุคคลต่างๆซึ่งมีการเรียกสอบผ่านไปถึง 2 รอบแล้วโดยแต่ละรอบนั้นก็มีการให้การที่ไม่ค่อยจะตรงกับรอบแรกสักเท่าไหร่

ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเก็บสำนวนและรวบรวมสำนวนคดีได้ประมาณเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้วซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานนั้นจะสามารถดำเนินคดีส่งเรื่องขึ้นศาลได้นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าคนที่จะถูกแจ้งข้อหาแล้วส่งขึ้นศาลนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียวแต่อาจจะมีหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกแจ้งความดำเนินคดี

         นอกจากนี้ข่าวลือเกี่ยวกับมีคนบนเรือได้มีการโทรหานักการเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือนั้นจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องสงสัยในคดีการเสียชีวิตของแตงโมทั้ง 5 คนนั้นปรากฏว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเช็คเกี่ยวกับเรื่องของสัญญาณโทรศัพท์มือถือสัญญาณการโทรออกว่ามีการติดต่อหาใครบ้างเพราะว่าโทรศัพท์มือถือของนายปนั้นมีการโทรออกไปจริงแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลกับประชาชนในขณะนี้ได้ว่ามีการโทรออกไปหานักการเมืองชื่ออะไรหรือโทรไปโทรออกไปหาใคร

         สำหรับประเด็นที่ประชาชนหลายคนสงสัยว่าเหตุการณ์ตกน้ำของแตงโมในครั้งนี้แตงโมอาจจะถูกหลอกเพื่อให้ไปทำการเอนเตอร์เทนลูกค้าบนเรือโดยที่แตงโมไม่รู้ล่วงหน้าเมื่อรู้เรื่องก็ทำให้แตงโมไม่พอใจและเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันเกิดขึ้นบนเรือจนทำให้เกิดเป็นการฆ่าแต่งโมปิดปากนั้นในกรณีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ายังไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าข้อสันนิษฐานของชาวโซเชียลหรือคนในสังคมนั้นเป็นเรื่องจริงสำหรับคดีของแตงโมนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีหลักฐานสามารถพิสูจน์ได้และไม่เอาความรู้สึกมาเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องของการตัดสินคดีอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

          เป็นเรื่องราวของเทรนเนอร์หนุ่มรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์เตือนภัยให้กับบรรดาเทรนเนอร์ทั้งหลายผ่านทาง Social Media โดยมีการโพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 6 เดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งชายหนุ่มรายนี้ระบุว่าตนเองนั้นมีอาชีพเป็นเทรนเนอร์แนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการออกกำลังกายซึ่งรับสอนออกกำลังกายที่ฟิตเนสและถ้าหากใครอยากจะซื้อคอร์สให้ไปสอนแบบส่วนตัวที่บ้านก็สามารถซื้อได้เช่นเดียวกัน

          อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์หนุ่มรายนี้ได้ระบุว่าเมื่อไม่นานมานี้เขาได้รับลูกค้าที่มาซื้อแพคเกจการออกกำลังกายซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าใหม่   มีการตกลงเงื่อนไขว่าจะทดลองเทรนกันก่อนว่าลูกค้าพอใจกับการสอนหรือไม่ก่อนจะซื้อแพคเกจเป็นแบบ 10 ครั้งโดยมีการตกลงว่าจะมีการเทรนกันทั้งหมด 3 ครั้ง

         สำหรับการเทรน 2 ครั้งแรกนั้นลูกค้าไม่ได้มีปัญหาอะไรและสถานที่ในการสอนการออกกำลังกายนั้นก็เป็นโรงแรมแห่งหนึ่งแถวบริเวณสีลมแต่ปรากฏว่าการแทนครั้งที่ 3 นั้นลูกค้าสะดวกให้เดินทางไปสอนที่บ้านซึ่งบ้านของลูกค้านั้นอยู่แถวพุทธมณฑลพุทธมณฑลห่างจากบ้านของเทรนเนอร์หนุ่มรายนี้ไตรมาสเนื่องจากว่าตัวเทรนเนอร์เองอยู่แถวลาดพร้าวนั่นเองดังนั้นจึงมีการคิดค่าบริการลูกค้าอยู่ที่ 3,000 บาทโดยคิดค่าน้ำมันรถ 1,000 บาทและค่าชั่วโมงในการเทรนอีก 2,000 บาท 

        อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์หนุ่มรายนี้ระบุว่าการเทรนครั้งที่ 3 นี่เองที่ทำให้เขานั้นต้องเจอกับเรื่องราวที่ต้องออกมาโพสต์เตือนภัยโดยลูกค้าซึ่งเป็นผู้ชายแต่มีลักษณะตุ้งติ้งเหมือนเกย์วัย 50 ปีต้องการให้เขาไปสอนในบ้านซึ่งบ้านของลูกค้าเป็นบ้านขนาดเล็กเป็นแบบทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นและไม่ยอมไปเทรนที่คลับเฮ้าส์ของหมู่บ้านนอกจากนี้ตอนที่มีการเทรนอยู่นั้นลูกค้าชายวัย 50 ปีก็แต่งกายที่ไม่เหมาะสมไม่เหมือนกับตั้งใจที่จะออกกำลังกายระหว่างที่มีการเทรนการออกกำลังกายอยู่นั้นลูกค้าได้นำเครื่องดื่มมาให้ดื่มซึ่งเป็นน้ำผลไม้และด้วยความที่เคยหนุ่มระมัดระวังตัวจึงไม่ได้มีการดื่มหลังจากที่สอนการออกกำลังกายเสร็จเทรนเนอร์หนุ่มก็เดินทางกลับบ้านทันทีแต่ได้นำน้ำผลไม้ขวดที่ลูกค้านำมาให้กินนำกลับมาที่บ้านด้วย

      อย่างไรก็ตามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อมาถึงบ้านเทรนเนอร์หนุ่มจึงได้กินน้ำผลไม้ไปครึ่งขวดหลังจากนั้นไม่ถึง 15 นาทีก็มีอาการเวียนหัวและหมดสติ  ufabet ฝาก-ถอน ออโต้  ซึ่ง เทรนเนอร์หนุ่มนอนหลับไปนานถึง 24 ชั่วโมงหรือ 2 วันติดต่อกันเลยทีเดียวกว่าจะฟื้นคืนสติขึ้นมาโดยทางแฟนสาวได้มีการพาไปส่งที่โรงพยาบาลโดยทั้งคุณหมอเจ้าของไข้แนะนำว่าอาจจะต้องตรวจหาสารในเลือดเพิ่มเติมว่าโดนวางยาชนิดไหนดึงจากว่ายาที่วางนั้นค่อนข้างแรงมากเลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามเทรนหนุ่มรายนี้ต้องการที่จะโพสต์เตือนภัยทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงผู้ชายว่าต้องควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษหากมีการไปเทรนนอกสถานที่เพราะอาจจะเจอการวางยาในลักษณะนี้ได้

 เชื่อว่าหลายคนคงเจอกับปัญหาว่าเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวที่เป็นญาติพี่น้องเดือดร้อนและมักจะมาขอร้องให้ไปช่วยค้ำประกันไม่ว่าจะเป็นการค้ำประกันซื้อรถหรือแม้

ค้ำประกันให้เพื่อนสนิท แต่การค้ำประกันกู้หนี้ยืมสินต่างๆ  ซึ่งหลายคนนั้นเนื่องจากว่ามีความสนิทและไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วญาติพี่น้องหรือเพื่อนจะทำร้ายตนเองได้ก็ตัดสินใจที่จะเซ็นค้ำประกันให้  แต่หลังจากที่มีการเซ็นค้ำประกันให้แล้วส่วนใหญ่มักจะโดนคนสนิททำร้ายด้วยการไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดหรือไม่ยอมใช้หนี้ทำให้เดือดร้อนมาถึงคนเซ็นค้ำประกันนั่นเอง

           สำหรับในบทความนี้เราจะมีการพูดถึงปัญหาที่มีอยู่ในสังคมนี้ซึ่งเป็นปัญหาที่เรามักจะพบเห็นการร้องเรียนออกมาผ่านทางสื่อต่างๆนั้นก็คือปัญหาการค้ำประกันให้กับคนรู้จักหรือเพื่อนสนิทแล้วถูกเพื่อนหนีหนี้ไม่ยอมจ่ายสร้างความเดือดร้อนให้กับคนค้ำประกันโดยส่วนใหญ่แล้วคนค้ำประกันจะต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดให้ซึ่งทางธนาคารก็จะมาทำการยึดที่ดินยึดบ้านยึดทรัพย์สินอื่นๆ

         ถ้าหากใครได้มีการติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่ามีหลายครั้งที่มีนักศึกษาที่ต้องการเรียนและต้องการกู้เงินจากทางรัฐบาลที่เป็นเงิน กยศ. จะต้องมีคนเซ็นค้ำประกันให้ด้วยคนเซ็นค้ำประกัน

นั้นมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นข้าราชการตำแหน่งยศตั้งแต่ 7 ขึ้นไปดังนั้นจึงมักมีนักศึกษาที่สนิทสนมกับอาจารย์มาร้องขอให้อาจารย์ของตนเองทำการเซ็นค้ำประกันให้และเมื่อมีการเซ็นค้ำประกันนักศึกษาเมื่อเรียนจบแล้วกลับไม่ยอมใช้หนี้กยศแต่นี่ทำให้อาจารย์เดือดร้อนเพราะเป็นคนเซ็นค้ำประกันให้บางคนถูกยึดบ้านยึดรถสูญเสียทรัพย์สินต้องออกมาร้องไห้คร่ำครวญผ่านทางสื่อต่างๆเพื่อให้ลูกศิษย์ช่วยกลับมาใช้หนี้ กยศ. ให้กับตนเองจะได้ไม่ต้องถูกจุดบ้านนั่นเอง 

           อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่นี้ก็จะสอนเพียงอย่างเดียวที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้แม้แต่การเซ็นค้ำประกันเรื่องของการซื้อรถหรือเป็นค้ำประกันในการทำธุรกิจด้านอื่นๆก็ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกันอย่างเช่นล่าสุดเมื่อวันที่ 28 เดือนมิถุนายนพ.ศ 2555 ได้มีหญิงวัย 40 ปีคนหนึ่งชาวจังหวัดขอนแก่นได้มีการเซ็นค้ำประกันให้เพื่อนเมื่อเพื่อนต้องการที่จะซื้อรถแต่เมื่อมีการเซ็นค้ำประกันไปแล้วปรากฏว่าเพื่อนได้รถแล้วไม่ยอมจ่ายเงินทำให้ถูกตัวทวงหนี้

       อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านี้ไม่สามารถติดต่อลูกหนี้ของตนเองได้จึงได้มีการทวงหนี้มาอย่างคนเซ็นค้ำประกันซึ่งได้มีการส่งเรื่องฟ้องศาลและศาลก็มีการบังคับให้ขายทรัพย์สินของคนค้ำประกันทอดตลาดสร้างความเดือดร้อนให้กับหญิงวัย 40 ปีนี้เป็นอย่างมากจนต้องมีการร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลือ 

            ดังนั้นถ้าหากใครไม่อยากจะเดือดร้อนเพราะไปเซ็นค้ำประกันให้กับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือคนรู้จักมากแค่ไหนก็ไม่ควรที่จะใจอ่อนเซ็นค้ำประกันให้เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าในอนาคตคนที่เราเซ็นค้ำประกันให้นั้นจะหนีหนี้แล้วจะมาสร้างความเดือดร้อนให้เราในนาทีสุดท้ายหรือไม่

 

สนับสนุนโดย.  ufabet

      หนุ่ม 16 ซิ่งบีเอ็ม ฝ่าไฟแดง   เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 1 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2565  ที่ผ่านมา ได้มีอุบัติเหตุรถเก๋งยี่ห้อ BMW ชนกับรถมอเตอร์ไซค์ เกิดอุบัติเหตุใน

ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา  สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีคนตายหนึ่งคน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยกโบอิ้งแลนด์  ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  ซึ่งจุดที่เกิดอุบัติเหตุนั้นอยู่ระหว่างประตู 1 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกับหนองปิงซอย 1 ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ 

         อุบัติเหตุในครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภโพธิ์กลางเข้ามาดูจุดเกิดเหตุและทำคดีซึ่งหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวและรีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุทันทีโดยในจุดเกิดเหตุนั้นนอกจากศพของผู้เสียชีวิตแล้วยังพบวัยรุ่นอายุ 16 ปีซึ่งเป็นคนขับรถ BMW คันที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุยืนอยู่รอเจ้าหน้าที่ในจุดเกิดเหตุอีกด้วย 

         จากการให้ข้อมูลของชายวัย 16 ปีซึ่งเป็นคนขับรถ BMW รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ  เว็บสล็อตแตกง่าย 2022 ไม่ผ่านเอเย่นต์   ทำให้เหตุการณ์เกิดเหตุทั้งหมดให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้เสียชีวิตเพิ่งเลิกงานจากท้องโรงพยาบาลกำลังจะขับรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากที่ทำงานเพื่อเดินทางกลับบ้านและมาจอดรอไฟแดงอยู่ตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุส่วนทางด้านคู่กรณีที่ขับรถ BMW นั้นขับมาจากอีกเลนหนึ่ง

      โดยจังหวะดังกล่าวนั้นเป็นช่วงไฟเขียวทำให้รถมอเตอร์ไซค์ของผู้เสียชีวิตออกตัวในขณะเดียวกันที่รถ BMW ได้มีการขับผ่าไฟแดงจึงทำให้ชนรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับสวนมาทันทีและส่งผลทำให้คนขับรถมอเตอร์ไซค์เสียชีวิตคาที่เนื่องจากว่ารถ BMW นั้นขับมาด้วยความเร็วสูง 

         เบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิตทางกู้ภัยได้มีการนำร่างไปไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตและประสานงานญาติของผู้เสียชีวิตมารับศพไปบำเพ็ญกุศลส่วนทางด้านคนขับรถเก๋งซึ่งเป็นคู่กรณีนั้นก็จะมีการนำตัวไปไว้ที่สถานีตำรวจและประสานงานให้ผู้ปกครองมารับ ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและจะได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

          สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่มีเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นเลยถ้าหากว่าผู้ปกครองของเด็กชายวัย 16 ปีมีสามัญสำนึกของคนเป็นพ่อและเป็นแม่ไม่ปล่อยให้ลูกชายของตนเองซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะยังไม่มีใบขับขี่ไม่อนุญาตให้ลูกของตนเองเอารถออกมาขับนอกจากนี้ตัวเด็กเองถึงแม้ว่าจะได้รับการอนุญาตก็ไม่ควรที่จะขับมาด้วยความเร็วสูงและที่สำคัญการขับรถยนต์นั้นควรจะเคารพกฎหมายและกฎจราจรเพราะถ้าหากว่าคนขับรถ BMW ไม่ขับฝ่าไฟแดงก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุและไม่มีคนตายเกิดขึ้น 

ช๊อค ครูพละขืนใจลูกศิษย์ แม่เด็กหญิงนักกีฬา    โร่แจ้งตำรวจ ให้ช่วยตามเรื่องคดีข่มขืน   เพราะแจ้งความไปนานแล้วเรื่องไม่คืบหน้าเลย   จึงมีคนช่วยเหลือ  ลงโซเซียล จึงเป็นเรื่องถึงนักข่าวทุกสำนัก  ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้เด็กหญิง  ทางกระทรวงการศึกษารับทราบ จึงได้มีการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบด่วนทันที    

จากเรื่องราวทั้งหมดมีผู้หวังดีมาโพสลงติ๊กต๊อก เพื่อช่วยให้สื่อได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  หลังจากโพสได้ไม่นาน ก็มีนักข่าวสำนักต่างนำออกไปเสนอ    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรีบเร่งนำตัวครูผู้ก่อเหตุมาสอบสวนเรื่องราวทั้งหมด  เด็กหญิงนามสมมุติชื่อน้องจอย อายุ 14 ปี  ซึ่งน้องเก่งด้านกีฬา  สอบคัดเลือกมาได้อยู่โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนสำหรับนักกีฬา  เรียน

และพักหอพักในโรงเรียน  น้องต้องหากจากพ่อแม่ เพื่อมาฝึกฝน  บ้านน้องไกลจากโรงเรียประมาณ 20 กม  ทำให้น้องต้องมาพักหอในโรงเรียน เพื่อสะดวกสบายในการฝึกซ้อมและเรียน  น้องเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียนแห่งนี้ด้วย   อยู่ที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ 

  ครูผู้สอนคนนี้ได้เรียกน้องจอย คนนี้มาพบ และแจ้งเด็กว่าฝึกซ้อมหนัก ครูจะทำการนวดให้นักกีฬา  ซึ่งเด็กก็ไม่ได้คิดอะไร  ก่อนหน้านี้สำหรับครูนักเรียนทุกคนเห็นว่าเอ็นเตอร์เทนเด็ก และคอยสั่งสอนดูแล เด็กๆๆนักกีฬาทุกคน   น้องจอยก็พบครูท่านนี้ปกติ   ก็พูดคุยกันไปมา ครูท่านนี้ก็ยื่นน้ำดื่มให้เด็กหญิงกิน    จากนั้นน้องจอยก็กินน้ำ 

แต่หลังจากที่กินน้ำไป จำความได้ว่ากินไปแล้ว เหมือนมึนๆ มองไม่ค่อยชัด คือเบลอ  แต่ตื่นขึ้นมา ตั้งสติได้เห็น  และน้องจอยก็เจ็บอวัยวะเพศ   น่าจะถูกครูคนนี้ข่มขืนแน่นอน   จึงได้ไปบอกเพื่อนให้ทราบ  เล่าให้เพื่อนฟัง  เพื่อนน้องจอยจึงได้ติดต่อแจ้งให้พ่อแม่ ของน้องจอยทราบ  ว่าน้องจอยถูกครูที่โรงเรียนข่มขืน ขณะที่เรียกให้ไปหาที่ห้องพัก ตื่นมาเจอสภาพตัวเองไม่ใส่เสื้อผ้า  และเจ็บปวดอวัยวะเพศ 

พ่อและแม่ น้องจอยเดินทางมาถึงที่บ้านเพื่อน ก็พบเจอน้องจอยอยู่ในอาการร้องไห้ ไม่ยอมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง  ซึมเศร้า เจอเหตุการณ์แบบนี้    พ่อแม่จึงได้พาน้องจอยไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด  หลังจากที่พบแพทย์แล้วแพทย์ก็แจ้งว่าอวัยวะเพศและปากมดลูกฉีกขาด   พ่อแม่ พร้อมที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

แจ้งความไม่คืบหน้า ก็ต้องหวังพึ่งสื่อต่างๆๆ และทนาย ช่วยจับครูคนนี้  ดำเนินตามคดี รับโทษกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป  ห่วงแต่จิตใจลูกสาว  ต้องพาเด็กหญิงคนนี้ไปพบพทย์เพื่อให้ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ต่อไป  ส่วนตัวครูที่ข่มขืนนั้น   เท่าที่ทราบตอนนี้ก็โดนหมายเรียกให้ไปพบตำรวจ  สอบสวน  และดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป          

 

สนับสนุนโดย.  www.ufabet.com เริ่มเดิมพัน