เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอได้มีการลาออกจากการเป็นครูด้วยหญิงสาวรายนี้ชื่อว่าศิริมาศ   เธอได้มีการเล่าประวัติความเป็นมาของโปสการ์ดที่กำลังโด่งดังในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ซึ่งเป็นโปสการ์ดสีชมพูสดใสแต่ข้อความในโปสการ์ดไม่ใช่ข้อความที่ประกาศเกี่ยวกับเรื่องของงานบุญแต่เป็นโปสการ์ดที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อประกาศว่าเธอได้สิ้นสุดการเป็นข้าราชการครูแล้วโดยมีผลไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2565 นอกจากนี้เธอยังได้ระบุสาเหตุของการลาออกจากราชการครูด้วยว่าเธอไม่สามารถที่จะทำให้งานอาชีพครูนั้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเธอได้เมื่อเธอไม่ยอมรับเธอจึงจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนงานแทนเนื่องจากอาชีพครูนั้นไม่ใช่ตัวตนของเธอนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามนางสาวศิริมาศได้มีการกล่าวกับสำนักข่าวไทยพีบีเอสว่าสาเหตุที่เธอต้องออกมาทำโปสเตอร์นั้น  มิติใหม่ของการลาออก    เป็นเพราะเธอเห็นว่าในช่วงที่เธอได้บรรจุเป็นข้าราชการครูใหม่ๆเธอไม่ได้มีการทำโปสเตอร์อวยพรให้กับตนเองเห็นว่าวิธีการนี้ดูน่ารักดีเธอก็เลยทำแต่ก็ถูกแชร์กันในโลกออนไลน์เพราะทำให้ถูกใจคนในโลกออนไลน์เพียงเท่านั้นเอง

         สำหรับเรื่องราวของนางสาวศิริมาศนั้นเกิดจากการที่เธอนั้นเติบโตมาจากครอบครัวข้าราชการครูไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือญาติพี่น้องนั้นก็เป็นครูกันทุกคนในตอนแรกเธอไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาเป็นคุณครูแต่เนื่องจากว่าเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเธอเกิดสอบติดวิชาชีพครูจึงได้ทดลองเรียนดูและพยายามศึกษาหาความรู้จนเธอเกิดความรู้สึกอยากจะทำอาชีพครูขึ้นมาหลังจากที่เธอเรียนจบแล้วเธอก็ได้มีการบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งโรงเรียนที่เธอไปสอนนั้นมีนักเรียนเพียงแค่ประมาณ 300 คนเพียงเท่านั้นโดยไม่มีการเปิดชั้นเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3

             อย่างไรก็ตามภายในโรงเรียนนั้นกลับมีคุณครูประมาณ 20 คนเพียงเท่านั้นซึ่งถือว่าไม่เพียงพอต่อไปนักเรียน  ufabet เว็บตรง   ดังนั้นครูหลายคนจึงมีหลายหน้าที่เพราะนอกจากจะต้องสอนหนังสือแล้วก็ยังต้องทำหน้าที่อื่นด้วยอย่างเช่นงานเอกสารหรืองานดูแลวัสดุต่างๆนอกจากนี้ครูบางคนยังต้องมีการสอนควบวิชาด้วยซึ่งตัวเธอเองนั้นก็สอนสองวิชา

          อย่างไรก็ตามนางสาวศิริมาศมองว่าหลังจากที่เธอไม่ได้มาทำงานเป็นครูในโรงเรียนแห่งนี้แล้วเธอรู้สึกว่าอาชีพของครูนั้นไม่ได้ทำเพียงแค่การสอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่เธอต้องทำหลายหน้าที่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเอกสารซึ่งเป็นงานที่เธอไม่ถนัดนอกจากนี้คุณครูเก่าๆที่อยู่ภายในโรงเรียนก็ไม่ค่อยแนะนำข้อมูลการทำเอกสารให้ทำให้เธอรู้สึกเบื่อและท้อเป็นอย่างมากจนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจที่จะมาประเมินตัวเองและลาออกจากการเป็นครู

แน่นอนไม่ว่าจะเป็นศิลปินดารา แบรด พิตต์ และ แองเจลิน่า โจลี่ ที่เราชื่นชอบพวกเขาจะมีสิ่งของไว้ในครอบครองไม่ว่าจะเป็นรูปภาพโปสเตอร์ต่างๆ เสื้อทีม เป็นรูปของเขา  แต่แน่นอนว่านอกจากสินค้าทั่วไป มันก็ยังมีสินค้าที่สุดพิเศษเชื่อได้เลยว่าแค่หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้พบเห็นว่า  และเคยเห็นผ่านหูผ่านตาบ้างแล้ว

ก็เป็นไปได้ซึ่งสินค้าที่ได้มีการถูกนำมาวางขาย ดังกล่าวในโลกออนไลน์  มันก็คือลมหายใจนั่นเอง  ถ้าหากคุณอยากจะรู้ว่าลมหายใจของใคร และมันจะมีมูลค่าการประมูลอยู่ที่เท่าไหร่  เราไปทำความรู้จักพร้อมกันเลยดีกว่า

เมื่อเป็นศิลปินดารา นักร้องคนดัง  ก็มักจะมีสินค้ามากมายที่ผลิตออกมา  แล้วก็ถูกนำมาวางขายในท้องตลาดมากมาย  ซึ่งราคาก็แตกต่างกันออกไปและแน่นอนว่า  สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับศิลปินและดาราที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้นั้น  มันเป็นลมหายใจของพวกเขานั้นเอง  ซึ่งลมหายใจของพวกเขาก็ถูกบรรจุไว้ในขวด  อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องราว ลมหายใจของแบรด พิตต์ และ แองเจลิน่า โจลี่

ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร  เพราะว่าเมื่อไหร่ที่เป็นสิ่งของคนดัง  หรือเป็นดาราดังแล้ว  ย่อมมีคนรอซื้ออยู่ตลอดเวลาอย่างกรณีของแบรดพิตต์  แองเจลิน่าโจลี่ ในปี 2010 มีคนเอาลมหายใจของทั้งคู่ออกมาวางขายใน eBay     ตัวที่ใส่มันไว้ในขวดสุดท้าย  แล้วก็ปิดประมูลไปที่ราคา 523 เหรียญ

จนได้ความจริงแล้ว 523 เหรียญนั้นเป็นราคาที่นิดน้อยจริงๆ  เมื่อเทียบกับราคาของเส้นผมของราชาแห่ง Rock อย่าง Elvis Presley  นะซึ่งถูกตัดโดยช่างตัดผมของเขาเองในราคาสูงถึง 115,000 เหรียญในปี 2002 ครับซึ่งในสมัยนั้น ยังไม่มีอีเมลด้วยซ้ำไป

สิ่งของที่ไม่คิดว่าจะขายได้แต่มันกลับทำรายได้  ให้กับใครหลายๆคนมากมายมหาศาล  ถ้าหากว่านำสิ่งเหล่านี้มาขายเพียงใดก็ตาม  เรื่องราวมากมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งของ  ที่นำมาโพสต์ขายในโลกออนไลน์สำหรับในปัจจุบันนี้  มีมากมาย รูปแบบหลากหลายผลิตภัณฑ์  และแน่นอนว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับดาราศิลปินที่เป็นที่นิยมนั้น

  ก็เมื่อจะได้รับความนิยมและก็จะมีมูลค่าที่สูงเป็นอย่างมาก  เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เราได้กล่าวไปข้างต้น  อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีศิลปินราดาคนอื่น  ที่ได้ถูกนำไม่ว่าจะเป็นเส้นผม  ลมหายใจหรือแม้แต่ทิชชูซับเหงื่อ  ออกมาประมูลขาย  และแน่นอนว่ามันก็มีราคาที่สูงเป็นอย่างมาก  และนอกจากสิ่งที่กล่าวไปข้างต้น  มันก็ยังมีสิ่งอื่นๆที่ถ้าหากคุณได้ลองศึกษาเรื่องราวเหล่านี้  ควรจะรับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ก็สามารถนำมาโพสต์ขายในโลกของอินเตอร์เน็ตได้ด้วยหรือ

 

สนับสนุนโดย.  UFABET เว็บตรง

ในตอนนี้เป็นที่ต้องจับตามองอย่างดีเจเด็กคนหนึ่งที่เรานั้นก็อาจจะเคยเห็นหน้าตากันแต่ว่าการที่เด็กนั้นทำเรื่องสนุกนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไรแต่ถ้าสื่อถึงอะไรนั้นเราคิดว่าควรหรือไม่ควรเพราะว่าการที่เดี่ยวนี้นั้นปล่อยให้เขานั้นใช้กิริยาทำอย่างนี้นั้นโลกของเราและเมื่อต่อไปนั้นเราจะเป็นอย่างไร  เด็กรุ่นใหม่นั้นจะมีนิสัยอย่างไรกัน  

    ซึ่งได้มีชาวเน็ตคนหนึ่งนั้นได้แชร์และโพสในเพจๆหนึ่งให้ดูว่ามีดีเจเด็กคนหนึ่งที่เรานั้นรู้จักได้ทำการเล่นเพลง  และบนโต๊ะนั้นก็มีโน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์  และช่วงท่อนบนนั้นได้ถอดเสื้อออก เหลือแต่ท่อนล่าง และได้มีมีหยุดเพลงพูดถุงคำคม    แต่ว่าด้วยเรื่องคำพูดนั้นบางคำก็พอรับได้แต่ว่าบางคำนั้นเราไม่อยากบอกเลยว่ามันก็เป็นคำพูดที่แรงอยู่เพราะว่ายังเป็นเด็กกลุ่มเยาวชน

  แต่ว่าในรูปนั้นได้มีการโชว์นิ้วกลางที่ที่ข้างจมูก  และบนโต๊ะนั้นได้มีผงสีขาวที่เรานั้นก็ไม่รู้คือว่าอะไร  แต่ว่าการที่เราคิดว่าเด็กคนนี้นั้นทำไม่สมควร  แต่ว่าส่วนคนที่เข้าไปดูนั้นชื่นชอบมียอดกดถูกใจเป็นจำนวนมากเราคิดว่าไม่เห็นที่จะสมควร

  เพราะว่าการที่เด็กนั้นทำบางอย่างนั้นเราก็สามารถที่จะปล่อยได้ แต่ว่าในเพจนั้นได้บอกกล่าวอยู่แล้วว่าถ้าไม่เหมาะสมนั้นควรที่จะทำการบล็อก หรือว่าหยุดการแพร่  แต่ว่าดีเจเด็กคนนี้สามารถที่จะได้ยอดกดถูกใจเป็นที่เยอะมาก  

     และเราเคยเห็นเด็กหรือว่าดีเจคนไหนนั้นทำอย่างนี้บ้างไหมครับ  ยิ่งเรานั้นเห็นเราคิดว่าเป็นเรื่องที่มาเหมาะสมอย่างมาก  แต่ว่าทางสังคมไทยนั้นกลับชอบ เพราะว่าเด็กนั้นได้แสดงถึง เรื่องเพศ  เรื่องยา  เอามารวมกันนั้นคนไทยชอบ  

ส่วนตัวนั้นผมคิดว่าเด็กนั้นก็คงเปิดเพลงในยูทูปเอาจากนั้นก็เบาเพลงใช้ไมค์พูดเอา  พูดแต่ประโยคเดิมๆ พูดแต่เรื่องเพศ  พูดวนอยู่อย่างนี้ แต่ถ้าเป็นเด็กคนอื่นทำไม่มีคนดูหรอกแต่ว่าเด็กคนนี้ทำกลับมียอดวิวที่คนดูนั้นเยอะเกินคาด  เราไม่แน่ใจว่าคนไทยเรานั้นต้องการที่จะให้เด็กนั้นสื่อออนไลน์นั้นต้องการคนแบบไหน  เพราะว่านี่ขนาดเด็กสามารถที่จะทำได้ขนาดนี้และเมื่อเขานั้นโตขึ้นเขาจะใช้ชีวิตในแบบไหน  เราคิดว่าไม่สมควรครับ  แต่ว่าคนไทยเรานั้นกลับชอบ กลับกดถูกใจ เออเอาสิ 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ufabet เว็บตรง

            เสี่ยชาติเสี่ยสวนปาล์ม จากกรณีการเสียชีวิตของนักธุรกิจคนดังจังหวัดตรังซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนปาล์มและยังทำธุรกิจอีกหลายอย่างด้วยกันซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเป็นการรับซื้อยางพาราโดยเสียชาติจะมีการขับรถเข้าไปรับซื้อยางพาราถึงสวนปาล์มของลูกค้าด้วยตนเองโดยมีรายงานข่าวเข้ามาว่าตอนนี้เสียชาติเจ้าของสวนปาล์มเสียชีวิตขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับครอบครัว  ทำให้เสี่ยสวนปาร์มเสียชีวิตคาที่ต่อหนาต่อต่อคนในครอบครัว และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงก็พบว่าเสี่ยชาติถูกยิงรวมกันทั้งสิ้นที่ลำตัว 9 นัดจึงทำให้เสี่ยชาติถึงแก่ความตาย 

           ล่าสุดทางรองผู้การชุดสืบสวน ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดียิงเสี่ยชาติมาประชุมร่วมกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมีการออกหมายค้นบ้านต้องสงสัยและทำการยึดอาวุธปืนมาหนึ่งกระบอกซึ่งเมื่อเอาปืนดังกล่าวมาตรวจสอบพบว่าเป็นดังกล่าวเป็นพื้นที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

            ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปในพื้นที่ และได้พูดคุยกับคุณฉลองซึ่งเป็นพ่อของผู้เสียชีวิต  ซึ่งคุณฉลองได้เล่าให้นักข่าวฟังว่าเสี่ยชาติ มีธุรกิจเยอะมาก   และธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติมากที่สุดก็คือธุรกิจซื้อขายปาล์มน้ำมัน โดยตั้งแต่เสี่ยชาติมีการเปิดธุรกิจซื้อขายปาล์มน้ำมันมาเป็นระยะเวลา 1 ปีก็มีแต่กำไรไม่เคยมีการขาดทุนเลยสักครั้ง

ซึ่งพ่อของผู้ตายมีความสงสัยว่าสาเหตุการตายของลูกชายอาจจะมาจากการที่ลูกชายเปิดรับธุรกิจซื้อขายปาล์มน้ำมันเพราะเนื่องจากว่าตั้งแต่ลูกชายเปิดธุรกิจนี้มาชาวบ้านต่างก็พากันมาขายปลาให้กับผู้ชายจนเจ้าของธุรกิจปั๊มน้ำมันคนอื่นไม่ค่อยมีใครเอาของไปขายซึ่งอาจจะสร้างความขัดแย้งมาจากจุดนี้ เพราะคนร้ายอาจจะหมั่นไส้ที่เสียชาติได้กำไรมากกว่า พ่อของผู้ชายเล่าให้ฟังว่าในคืนวันเกิดเหตุขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันคนร้ายได้ใส่เสื้อสีฟ้าสวยไอ้โม่ง

เดินเข้ามายืนห่างจากจุดที่ทั้งหมดนั่งกินข้าวกันแค่ประมาณ 20 เมตรแล้วก็ยิงเข้ามาเสียชาติต่อหน้าต่อตาลูกและเมียของเสียชาติเลยทำให้ตอนนี้เมียเสียชาติยังไม่ยอมพูดเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวเนื่องจากช็อคจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งพ่อของเสียชาติต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

เพราะลูกของเขาเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน จากที่นักขาวลงพื้นที่ทุกคนต่างก็พูดเหมือนกันว่า เสี่ยชาติเป็นคนดีและรับซื้อปาล์มให้ราคาสูงชาวบ้านชอบมาขายปาล์มให้กับเสียชาติเพราะบางครั้งไม่มีรถมาส่งแต่เสี่ยชาติก็จะเอารถออกไปรับปาล์มเองดังนั้นหลายคนจึงลงความเห็นกันว่าคนร้ายน่าจะมีปัญหามาจากปมเรื่องธุรกิจถึงได้เข้ามายิงเสียชาติถึงที่บ้าน 

 

 

สนับสนุนโดย   UFABET เว็บตรง