เมื่อวันที่ 3 เดือน ตุลาคม ปี พ.ศ. 2563  ซึ่งเป็นช่วงเวลาค่ำแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เธอได้ประสบมาขณะที่กำลังช็อปปิ้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์  สาขา งามวงศ์วาน  เธอบอกว่าขณะที่เธอกำลังช็อปปิ้งนั้นเป็นช่วงที่ค่ำแล้วโดยเธอช้อปปิ้งอยู่ที่บริเวณชั้น G ของห้าง

         ขณะที่เธอและแฟนของเธอกำลังช็อปปิ้งกันอยู่นั้นปรากฏว่าได้ยินเสียงคนร้องโวยวายภายในบริเวณห้างและมีการวิ่งหนีโดยบางคนก็ตะโกนให้คนภายในห้างพากันหาที่ซ่อนเนื่องจากว่ามีชายคนหนึ่งใส่ชุดลายพรางคล้ายทหารและมีอาการคล้ายคนเสียสติกำลังวิ่งเอามีดไล่แทงคนภายในห้างที่อยู่บริเวณชั้น G   ซึ่งขณะที่เธอยืนอยู่ตรงบริเวณร้านมอสเบอร์เกอร์อยู่นั้นคนร้ายเขาวิ่งมาถึงบริเวณแถวร้านแอนตี้แอนแล้ว

        เธอบอกว่าเหตุการณ์ในขณะนั้นจำนวนมากผู้คนต่างพากันวิ่งหาที่ซ่อนโดยตัวเธอเองนั้นก็วิ่งหาที่ซ่อนตรงบริเวณห้องน้ำขังตัวเองอยู่ภายในพร้อมทั้งโทรแจ้ง  จส. 100 ให้ช่วยประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ขณะนั้นมีคนซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำหลายคนทุกคนต่างพากันหวาดกลัวโดยไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีกจากที่เคยเกิดขึ้นที่ห้าง Terminal 21 ที่โคราชมาแล้วหลายคนกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยซึ่งตัวเองก็กลัวเป็นอย่างมากทุกคนต่างพากันปิดเสียงเงียบเพราะเกรงว่าคนร้ายจะได้ยินเสียงและมาทำร้ายถึงในห้องน้ำ 

           อย่างไรก็แล้วแต่หากที่เธอรออยู่ในห้องน้ำได้ประมาณ 5-10 นาทีเธอก็ได้รับการติดต่อเข้ามาจากทางเจ้าหน้าที่ของจส 100 ได้โทรมาแจ้งให้เธอทราบว่าขณะนี้ภายนอกได้มีการจับตัวคนร้ายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่ของห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานนั้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         เธอและคนอื่นเมื่อได้ยินดังนั้นจึงได้ออกมาจากห้องน้ำซึ่งพอออกมาถึงเหตุการณ์ก็สงบแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเธอไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าชายคนดังกล่าวคุ้มข้างเพราะเหตุผลอะไรแต่ก็มีบางคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูกชายคนดังกล่าวนั้นใช้มีดแทงซึ่งได้มีการส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้ๆแล้ว

         ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชายคนดังกล่าวถึงสาเหตุที่ออกมาอาละวาดใช้มีดไล่แทงคนอื่นในห้างสรรพสินค้าแบบนี้และคงต้องดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่

 

 

สนับสนุนโดย  ufabet บนมือถือ

        เกิดเหตุการณ์คลื่นที่จังหวัดสมุทรปราการโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์เมื่อมีคลิปจากกล้องวงจรปิดของโรงงานแห่งหนึ่งได้ออกมาโพสต์เหตุการณ์ที่คนงานนั้นถูกเหล็กร่วงทับใส่ซึ่งเหล็กดังกล่าวนั้นหนักถึง 3 ตันซึ่งเหตุการณ์ที่มีการพบกันนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 เดือนสิงหาคมปีพ. ศ. 2563 โดยโรงงานแห่งนี้อยู่ที่บริเวณแถวย่านบางแก้วเป็นโรงงานที่ทำเกี่ยวกับเหล็กโดยตรง

ซึ่งในคลิปจะเห็นว่าพนักงานคนหนึ่งกำลังทำงานตามปกติของเขาเองแต่อยู่ดีๆเหล็กซึ่งเป็นเหล็กม้วนซึ่งมีการวางไว้อยู่บริเวณข้างกำแพงถ้าเกิดล้มลงมาทำให้พนักงานที่ทำงานอยู่ตรงบริเวณดังกล่าวนั้นได้รับบาดเจ็บโดยเหล็กมีความหนักมากกว่า 3 ตันและหลังจากที่เหตุการณ์เหล็กม้วนลงมาทับคนงานจะได้รับบาดเจ็บนั้น

ก็มีคนประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อนำร่างคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่ปรากฏว่าเมื่อกู้ภัยมาถึงนั้นคนงานคนดังกล่าวก็เสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสและจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นทำให้พบว่าร่างกายของคนงานนั้นกระดูกหักหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นขาและลำตัวรวมถึงบริเวณสะโพก

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ชาวโซเชียลที่ได้เห็นรูปภาพในคลิปต่างก็แสดงความเสียใจกับคนที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครตั้งใจทำให้เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นที่โรงงานนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดเก็บเหล็กที่ไม่ดีอีกครั้งถ้าดูจากไทม์ไลน์ในกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่าคนงานถูกเหล็กทับไปหลายนาทีกว่าที่จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือซึ่งระหว่างนั้นคนงานน่าเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมากและหลายคนมองว่าหากมีระบบความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเร็วกว่านี้ไม่แน่ว่าคนงานชายดังกล่าวนั้นอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้

          สำหรับอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลาดังนั้นการทำงานไม่ว่าจะเป็นงานที่ไหนโรงงานอะไรก็มีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นผู้ที่ทำงานจึงควรระมัดระวังในการทำงานทุกครั้งเพราะเหตุการณ์ที่คนงานได้รับอันตรายจากอุปกรณ์ภายในโรงงานนั้นมีออกมาค่อนข้างบ่อยซึ่งบางครั้งก็เกิดจากที่ตัวคนงานเองที่ไม่ระวัง และประมาทจนเกินไปทำให้เกิดอันตรายกับตนเอง

แต่บางครั้งก็อาจเกิดจากอุปกรณ์ภายในโรงงานนั้นเกิดความชำรุดหรือโรงงานไม่มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยที่ดีดังนั้นไม่ว่าจะเกิดจากกรณีไหนทางด้านโรงงานและคนงานก็ควรจะต้องมีการ ดูแลความปลอดภัยภายในโรงงานให้ดีโรงงานเองก็ควรจะมีการตั้งระบบรักษาความปลอดภัยและควรจะมีการปฐมพยาบาลฉุกเฉินเอาไว้กรณีที่เผื่อว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในโรงงานจะได้มีการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น

ก่อนที่จะส่งถึงมือหมอและลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตให้กับคนที่ประสบอุบัติเหตุได้ด้วยส่วนคนงานเองก็ควรจะต้องมีความระมัดระวังในการทำงานและไม่ประมาททุกครั้งที่มีการเข้ามาทำงานตรงจุดที่มีความเสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

 

สนับสนุนโดย  ae บาคาร่า

         เกิดเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้น กับหญิงชราคนหนึ่งอายุ 63 ปี  ซึ่งในหญิงชราคนดังกล่าวได้เสียชีวิตลงแล้วแต่เหตุการณ์น่าประทับใจนั้นได้มีการส่งต่อมาจากลูกหลานของเธอที่ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวได้ฟัง  โดยหญิงชราซึ่งเป็นผู้สร้างความประทับใจนั้นเป็นคนจังหวัดสมุทรปราการอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลในคลองบางปลากด  โดยเหตุการณ์ที่น่าประทับใจนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่หญิงชราวัย 63 ปีเสียชีวิตลงด้วยสาเหตุของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ 

      ซึ่งในงานศพของหญิงชราวัย 63 ปีนั้นญาติพี่น้องของหญิงชราได้มีการขนทั้งพัดลม  หม้อหุงข้าว  เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นเตารีดหรือแม้แต่กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้าอีกทั้งยังมีพวกช้อนและผ้าขนหนูผ้าเช็ดหน้าและข้าวของอื่นๆอีกมากมายนับรวมแล้วมากกว่า 1000 ชิ้นมาไว้ที่ศาลาสวดศพรวมถึงยังมีเงินอีกจำนวน 20,000 บาทด้วย

      โดยครอบครัวของหญิงชราที่เสียชีวิตบอกว่าข้าวของเหล่านี้ที่ขนมาไว้ที่ศาลาสวดศพนั้นเป็นข้าวของที่หญิงชราได้มีการสะสมเอาไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเสียชีวิตโดยเริ่มต้นสะสมมาตั้งแต่ปีพศ 2543 ซึ่งถ้านับจนถึงปัจจุบันนี้ในวันที่เสียชีวิตก็เป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปีแล้ว  ส่วนสาเหตุที่หญิงชราสะสมข้าวของต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อต้องการที่จะเอาไว้มาเป็นของชำร่วยในงานศพของตนเองซึ่งเธอต้องการที่จะนำเข้าของเหล่านี้ไปบริจาคให้กับผู้ที่ยากไร้เพื่อเป็นการทำบุญให้กับศพของตนเอง

       โดยหญิงชรานั้นมีการสะสมข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้มาตั้งแต่เริ่มรู้ตัวว่าตนเองป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ซึ่งเธอรู้ดีอยู่แล้วว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ดังนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมื่อมีเงินรายได้เข้ามาหญิงชราก็จะแบ่งซื้อข้าวของเครื่องใช้เก็บสะสมเอาไว้เมื่อเอาไว้บริจาคในช่วงบั้นปลายชีวิตของเธอนั้นเอง 

       ทางด้านญาติของหญิงชราได้บอกว่าหลังจากที่มีการเผาศพเรียบร้อยแล้วจะนำพัดลมและข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ไปบริจาคตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นศูนย์เด็กเล็กหรือโรงพยาบาลหรือตามจุดต่างๆที่ขาดแคลนเพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับหญิงชราที่เสียชีวิตไป

       นับได้ว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตนเองและเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับคนในชุมชนเป็นอย่างมากเพราะยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ยังขาดแคลนข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคนที่ยากไร้  และคนจนทั้งหลาย  ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าผลบุญนี้จะส่งผลให้ผู้ที่เสียชีวิตนั้นมีความสุขสมหวังที่มีการตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะเสียชีวิตนั่นเอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  ae บาคาร่า

 ชาวบ้านจังหวัดอุดรรวมตัวกับนักเรียนขับไล่โรงงานการผลิตยางมะตอยเพราะส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง

         ที่จังหวัดอุดรธานีได้เกิดเหตุการณ์ชาวบ้านรวมถึงนักเรียนนักศึกษาต่างพากันมารวมตัวประท้วงอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงงานการผลิตยางมะตอย  ซึ่งงานดังกล่าวนั้นแต่เดิมแล้วก็มีการตั้งโรงงานไว้ตรงบริเวณริมถนนมิตรภาพแห่งนี้มานานหลายปีแล้วแต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร   มามีปัญหาในช่วงเวลานี้เนื่องจากว่าทางโรงงานนั้นต้องเร่งผลิตยางมะตอยโดยมีการผลิตยางมะตอยนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืนทำให้กลิ่นเหม็นของยางมะตอยนั้นส่งกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรงออกไป

      อีกทั้งชาวบ้านยังบอกอีกด้วยว่า โรงงานดังกล่าวนั้นได้มีการนำรถบรรทุกมาจอดไว้บริเวณริมถนนซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักเรียนนักศึกษาที่ต้องเดินทางผ่านถนนเส้นนี้เป็นอย่างมากเพราะมีเบอร์รถบรรทุกเป็นจำนวนมากมาจอดยึดพื้นที่บนท้องถนนเอาไว้ทำให้การจราจรนั้นค่อนข้างที่จะมีปัญหาอีกทั้งกลิ่นเหม็นที่ทางโรงงานส่งออกมานั้นก็รุนแรงจนเด็กนักเรียนรวมถึงชาวบ้านไม่สามารถที่จะทนดมกลิ่นเหม็นนี้ไว้ได้เนื่องจากว่าเกรงจะมีผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของคนในชุมชน

    ดังนั้นพังชาวบ้านและเด็กนักเรียนนักศึกษาทุกคนจึงได้มีการมารวมตัวกันที่กุมภวาปีเพื่อทำการประท้วงโรงงานดังกล่าวให้หยุดการผลิตยางมะตอย  อย่างไรก็ตามแต่หลังจากที่มีการยืนประท้วงกันมาอย่างยาวนานก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้สักที

    จนในที่สุดทางด้านเทศบาลก็ได้ออกมาเป็นตัวแทนของชาวบ้านและนักเรียนนักศึกษาออกไปพูดคุยกับทางโรงงานซึ่งท้ายที่สุดแล้วทางด้านเทศบาลก็มีการสั่งให้ทางโรงงานนั้นมีการหยุดการผลิตยางมะตอยเป็นการชั่วคราวไปก่อนโดยให้ทางโรงงานนั้นมีการปรับปรุงขั้นตอนการผลิตยางมะตอยให้ไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านโดยทางเทศบาลมีการประกาศให้โรงงานหยุดประมาณ 15 วัน 

ซึ่งทางโรงงานรับทราบและดำเนินการให้อยู่แต่ชาวบ้านที่มาประท้วงนั้นไม่อยากที่จะให้โรงงานนั้นเพียงแค่มีการปรับปรุงเท่านั้นแต่พวกเขาต้องการให้ทางโรงงานนั้นย้ายโรงงานไปผลิตยางมะตอยที่อื่น เนื่องจากว่าชาวบ้านบอกว่าพวกเขาต้องทนปัญหากลิ่นเหม็นของยางมะตอยมาแล้วหลายปีดังนั้นจึงอยากให้ทางโรงงานนั้นย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่เพียงแค่หยุดปรับปรุงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

       แต่อย่างไรก็ตามแต่สุดท้ายแล้วทางด้านชาวบ้านที่มารวมตัวกันต่างก็แยกย้ายกันไปหลังจากที่มีการประท้วงกันมาจนถึงช่วงประมาณเที่ยงวันโดยตัวแทนของชาวบ้านได้ระบุว่าพวกเขาจะให้โอกาสโรงงานในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาและอีก 15 วัน

พวกเขาจะมาดูอีกทีนึงว่าหลังจากที่ให้หยุดปรับปรุงแล้วโรงงานสามารถดำเนินการปรับปรุงได้หรือไม่เพราะถ้าหากปรับปรุงไม่ได้ชาวบ้านก็ยังจะยืนยันว่าพวกเขาจะต้องมีการย้ายโรงงานไปอยู่ที่อื่นอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    gclub สมัครสมาชิก