เมื่อวันที่  18  เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ.2564  ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งมีการแชร์ภาพถ่ายซึ่งเป็นภาพไข่เป็ด ลงไปใน Facebook ของตนเองพร้อมทั้งระบุว่าเธอเพิ่งซื้อไข่ไก่มา 1 แผงในตอนเช้าซึ่งไปปิดของเธอนั้นยังอยู่ในสภาพดีทุกอย่างแต่หลังจากที่ซื้อมาแล้วกลับมาดูอีกครั้งในตอนเย็นปรากฏว่ามีไข่บางฟองนั้นมีสภาพที่เหี่ยว ซึ่งเธอไม่เคยเห็นไข่เป็นแบบนี้มาก่อน

         เธอจึงได้ถ่ายภาพมาถามคนในโลกออนไลน์ว่าเคยเห็นใครแบบนี้หรือไม่และไข่นี้กินได้หรือไม่จะเกิดอันตรายหรือไม่เธอระบุว่าเธอเป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์และซื้อไข่นี้มาจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งซึ่งเธอได้มีการระบุพิกัดเอาไว้ใน Facebook ของเธอด้วย

         อย่างไรก็ตามหลังจากภาพไข่เป็ดของเธอที่มีการแชร์ออกไปนั้นทำให้หลายคนนั้นเข้ามาตอบข้อสงสัยของเธอซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ค้าขายไข่เป็ดให้เธอนั่นเองโดยแม่ค้าระบุว่าไข่เป็ดนี้เป็นไข่สดเป็นไข่เปลือกบางซึ่งก่อนที่จะซื้อเธอบอกกับลูกค้าทุกคนอยู่แล้วว่าไข่นี้เป็นไข่เปลือกบางและขายในราคาถูกเพียงแค่แผงละ  75 บาทเท่านั้นโดยขณะนี้สามารถยังกินได้ตามปกติก็ได้ย้ำกับลูกค้าทุกคนที่ซื้อไข่จากเธอไปด้วยว่าเมื่อซื้อกลับไปแล้วให้นำไปแช่ในตู้เย็นแล้วให้รีบนำออกมาทำอาหารทานเร็วๆอย่าเก็บไว้นาน

       โดยตัวแม่ค้าเองนั้นก็ขายไข่เป็ดซึ่งเป็นไข่เปลือกบางแบบนี้มานาน 2 ปีแล้ว  อย่างไรก็ตามคนอื่นๆที่ได้เห็นสภาพไข่เป็ดของหญิงสาวที่มีการโพสต์มาถามนั้นทุกคนยืนยันว่าไข่ชนิดนี้มีอยู่จริงและสามารถกินได้นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาตอบคำถามนี้ว่าก่อนหน้านี้ปัญหาเรื่องของไข่เหี่ยวนี้ เคยมีการนำมาถามในโลกออนไลน์แล้วช่วงประมาณปี พ.ศ. 2558

           ซึ่งตอนนั้นก็เป็นข่าวดังตามสื่อต่างๆโดยมีการออกมาให้คำตอบจากทางกรมปศุสัตว์แล้วว่าใครดังกล่าวนั้นสามารถกินได้ส่วนสาเหตุที่ไข่มีลักษณะเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นที่สภาพร่างกายของแม่เป็ดหรือแม่ไก่ที่มีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงเมื่อไข่ออกมาจึงมีลักษณะเหมือนขาดแคลเซียมโดยส่วนใหญ่แล้วแม่ไก่หรือแม่เป็ดที่ออกไข่ในลักษณะแบบนี้จะเป็นพวกที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอหรือบางตัวนั้นอาจจะขาดแคลเซียมจึงส่งผลออกมาในรูปแบบของไข่ที่มีลักษณะเหี่ยวได้นั่นเองซึ่งเป็นพวกไข่เปลือกบาง 

 

สนับสนุนโดย  sa gaming เข้าสู่ระบบ

       มีการรายงานข่าวออกมาว่าเมื่อวันที่ 6 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   มีฝนตกหนักในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าบางแห่งนั้นเกิดน้ำท่วมขังและบางแห่งนั้นก็มีพายุพัดรุนแรง  และการฝนตกหนักในครั้งนี้เป็นการตกหนักแบบยาวนานต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งสายของอีกวันเลยทีเดียว

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่พายุฝนได้สงบลงแล้วปรากฏว่ามีชาวบ้านได้รับความเสียหายจากการเกิดพายุฝนเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นอย่างมากบางแห่งนั้นพายุได้มีการพัดเอาที่ครอบเศียรของพระพุทธรูปซึ่งมีขนาดใหญ่ตกใส่บ้านเรือนของประชาชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คนด้วยกันซึ่งในขณะนี้คนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นอาการยังสาหัสอยู่ระหว่างการรักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาล

         ในขณะที่จังหวัดสมุทรปราการชาวบ้านก็ได้รับความเดือดร้อนจากการเกิดพายุฝนในครั้งนี้เช่นเดียวกันโดยมีชาวบ้านประมาณ 40 ถึง 50 หลังคาเรือนที่มีการปลูกบ้านเอาไว้อยู่ตรงบริเวณริมชายทะเลของอ่าวไทยโดนพายุกระหน่ำซัดคลื่นเข้ามาทางบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายที่สำคัญเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ มีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นเด็กชายอายุเพียงแค่ 7 ขวบเท่านั้น

        โดยชาวบ้านได้เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่พายุสงบในช่วงเวลาเช้านั้นทุกคนก็พากันออกมาดูยังจุดเกิดเหตุในหมู่บ้านและได้พบกับหญิงสาวรายหนึ่งพร้อมกับเด็กชายอีกคนหนึ่งลอยคออยู่ในทะเลซึ่งมีการเกาะตอไม้เอาไว้ชาวบ้านจึงได้เข้าไปทำการช่วยเหลือแม่และเด็กขึ้นมาบนฝั่งหลังจากที่แม่พาลูกตนเองขึ้นมาบนฝั่งได้แล้วก็กอดลูกและร่ำไห้เนื่องจากว่าเด็กชายคนดังกล่าวนั้นเสียชีวิตซึ่งผู้เป็นแม่นั้นบอกว่าลูกตัวเองนั้นว่ายน้ำไม่เป็นและสำลักน้ำทำให้เสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเวลากลางคืนแล้ว

         ในขณะที่ชาวบ้านกำลังให้การช่วยเหลือหญิงสาวที่ต้องสูญเสียลูกชายวัย 7 ขวบ ไปนั้นปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง ได้เข้ามาหาแม่-ลูก คู่ดังกล่าวพร้อมระบุว่าตนเองนั้นเป็นสามีของผู้หญิงที่ต้องสูญเสียลูกวัย 7 ขวบ  โดยเขาได้เล่าให้ชาวบ้านฟังว่าในช่วงเวลาประมาณ 3:00 น เกิดพายุลมแรงเนื่องจากว่าบ้านของเขานั้นทำเป็นเพลิงขนาดเล็ก

         ซึ่งเขาเกรงว่าพายุฝนจะพัดบ้านพังแล้วพวกเขาจะสมน้ำจึงได้ตัดสินใจพากันลงเรือและระหว่างที่นั่งเรืออยู่นั้นปรากฏว่าคลื่นในท้องทะเลซัดเข้ามาในเรือทำให้เรือคว่ำโดยตัวของเขาเองนั้นถูกน้ำทะเลพัดไปยังที่อื่นมารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นช่วงเวลาเช้าซึ่งมีชาวบ้านให้การช่วยเหลือส่วนรูปเมียนั้นก็โดนน้ำซัดไปคนละทิศละทางซึ่งหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาก็รีบออกติดตามหาลูกกับเมียทันทีจนมาพบว่ารูปเสียชีวิตจากการจมน้ำตายนั่นเอง 

 

 

สนับสนุนโดย    ติดต่อ ufabet

             เมื่อวันที่ 15 เดือนมีนาคมปี พศ. 2564 ในแอพพลิเคชั่นติดต่อได้มีคนโพสต์คลิปวิดีโอคลิปหนึ่งขึ้นมา คลิปวีดีโอดังกล่าวนั้นรูปถ่ายคืนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากนั้นจึงถูกนำมาเผยแพร่ใน Application ติ๊กต๊อก  ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงคนนึงกำลังยืนเถียงอยู่กับพนักงานสาวคนหนึ่งตรงบริเวณหน้าทางเข้าร้านอาหารโดยมีผู้ชายคนนึงใส่แมสยืนอยู่ข้างกันจากเหตุการณ์ในคลิปจะเห็นได้ว่าพนักงานร้านซึ่งใส่แมสและสวมหมวกกำลังบอกให้ลูกค้าสาวที่มากับแฟนหนุ่มใส่แมสก่อนเข้าไปในร้าน เนื่องจากเป็นมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19  

               โดยในคลิปจะเห็นว่าฝ่ายผู้ชายที่มาพร้อมกับผู้หญิงที่ไม่ยอมใส่แมสก์นั้น ตัวเขาเองก็ใส่แมสก์ และยังพยายามสะกิดบอกแฟนสาว แต่หญิงสาวคนดังกล่าวก็ไม่ยอมใส่ โดยมีข้ออ้างต่างต่างมากมาย เช่น คนอื่นภายในร้านก็ไม่เห็นใส่ หรือ เธอใส่ไม่ได้เพราะเธอเพิ่งทาลิปสติกมา อีกทั้งเธอยังบอกด้วยว่าเธอจะเข้าไปในร้านเพียงแค่ประมาณ 5 ฟุตเท่านั้น

โดยเธอพยายามหาเหตุผลหลายอย่างมาพูดกับพนักงานเพื่อไม่ต้องการที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัยเข้าไปในร้านจนในที่สุดพนักงานนั้นก็ไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไปหลังจากที่เธอนั้นได้มีการไปตามหัวหน้างานของเธอมาพูดคุยกับลูกค้าสาวคนดังกล่าวแต่ลูกค้าสาวคนนั้นก็ยังคงปฏิเสธการใส่หน้ากากอนามัยด้วยความโมโหพนักงานสาวคนดังกล่าวจึงได้มีการถอดหมวกและผ้ากันเปื้อนออกพร้อมทั้งโยนลงพื้นและประกาศว่าเธอขอลาออกจากงาน

            ซึ่งก่อนที่เธอจะออกจากงานนั้นเธอยังพูดอีกด้วยว่าเพราะมีคนอย่างลูกค้าสาวคนดังกล่าวทำให้การหางานและการทำงานนั้นมันยากขึ้นไปอีกมันไม่ยุติธรรมสำหรับพนักงานเลยที่จะต้องมาเจอกับลูกค้าแบบนี้และเธอตัดสินใจที่จะลาออกหลังจากนั้นเธอก็เดินออกจากประตูร้านอาหารไปเลยและเมื่อพนักงานร้านเดินออกจากประตูร้านอาหารไปแล้วปรากฏว่าหญิงสาวที่ไม่ใส่แมสก็หยิบแมสในกระเป๋ากางเกงของเธอขึ้นมาและใส่ปิดบังใบหน้าของเธอทันที และเมื่อคลิปนี้ถูกแชร์ออกไปใน Application tiktok คนที่เห็นคลิปนี้

ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมากถึงการกระทำของหญิงสาวคนดังกล่าวที่ไม่ยอมสวมใส่แมสทั้งๆที่ก็มีกฎข้อห้ามเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิคจนทำให้พนักงานนั้นตัดสินใจลาออกจากงานลูกค้าสาวถึงยินยอมที่จะใส่แม็กซึ่งมันก็สายเกินไปแล้ว

              สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลกอยู่ในตอนนี้และยังมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลกเช่นเดียวกันถึงแม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีการซื้อวัคซีนมาแจกให้กับประชาชนแต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่ยอมป้องกันและไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัยทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีคนติดเชื้ออันดับ 1 ของโลกนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย    gclub

             วันที่ 26 เดือนเมษายน  ปีพศ. 2564   ได้มีการประกาศออกมาจากทางผู้ว่ากรุงเทพมหานครเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนของคนกรุงเทพให้ห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสโควิช- เนื่องจากสถานการณ์ของคนในกรุงเทพในตอนนี้นั้นมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19  มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศดังนั้นผู้ว่ากรุงเทพฯจึงจำเป็นที่ต้องออกมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดนั้นลดลง

       ซึ่งมาตรการที่ทางผู้ว่ากรุงเทพออกมานั้นก็คือทุกคนที่จะออกนอกบ้านก็ต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยและถ้าหากไม่ใส่หน้ากากอนามัยฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยมีการระบุความผิดตาม กฎหมายมาตรา 51 เอาไว้ซึ่งจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 20,000 บาทและผลบังคับใช้เกี่ยวกับเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านนั้นจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 เดือน  เมษายนปี พ.ศ. 2564 ทันที 

        อย่างไรก็ตามหลายคนมองว่าโดยปกติทุกคนตอนนี้ให้ความร่วมมือเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัยอยู่แล้วเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเดินออกนอกบ้านไปซื้อของหรือแม้แต่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆทุกคนจะมีหน้ากากอนามัยพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาและมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาอยู่แล้วในตอนนี้แต่อย่างไรก็ตามผลบังคับใช้เกี่ยวกับเรื่องของการประกาศให้ใส่หน้ากากอนามัยนั้นไม่ได้มีแค่เพียงการออกนอกพื้นที่เพียงเท่านั้น

         แต่ยังรวมถึงการท่องสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะที่มีการเดินทางบนรถโดยสารหรือแม้แต่รถประจำตัวของตนเองโดยไม่ว่าคุณจะขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้า BTS รวมถึงรถไฟฟ้าใต้ดินหรือแม้แต่บางคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตนเองทุกคนจะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยและถ้าหากใครฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกันซึ่งจะถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 20000 บาทเหมือนกันนั่นเอง

           อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่พูดกันเพียงปากเปล่าเท่านั้นเพราะว่าได้มีเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มีการแชร์ภาพของตนเองที่ถูกเรียกค่าปรับโดยมีการถ่ายรูปใบเสร็จลงมาแชร์ใน Facebook ให้มีกี่คนในโลกออนไลน์ได้เห็นกันว่าเขากับคนในครอบครัวนั้นขับรถออกไปในที่สาธารณะซึ่งในขณะที่ทุกคนก็นั่งอยู่ในรถแต่ไม่ได้มีใครใส่หน้ากากอนามัยขณะที่นั่งอยู่ในรถเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงได้มีการเรียกเก็บค่าปรับ

         โดยเบื้องต้นนั้นเขาได้โพสต์เพราะว่าสงสัยว่าถ้านั่งอยู่ในรถไม่ได้ออกไปข้างนอกเขาต้องเสียค่าปรับหรือไม่ซึ่งในที่สุดทางด้านผู้ว่าก็ได้ออกมาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าถึงแม้จะอยู่ในรถก็ต้องเสียค่าปรับเช่นเดียวกันถ้าหากภายในรถนั้นมีคนนั่งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปและถึงแม้ว่าคนที่นั่งอยู่ในนั้นจะเป็นไงคนในครอบครัวเดียวกันแต่อย่างไรก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลานั่นเองไม่มีการอนุโลมใดๆทั้งสิ้นไม่ใส่หน้ากากอนามัยได้เฉพาะเพียงแค่ขับรถแล้วมีการนั่งอยู่คนเดียวเพียงเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย.    sa gaming ทดลองเล่น