พ่อฉุนเพื่อนลูก  คว้าคราดตีจนเสียชีวิต  เมื่อวันที่ 10 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 20:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งโดยจุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านซึ่งอยู่ในหมู่ 13 คลองตะเข้   จังหวัดจันทบุรี

สำหรับการทะเลาะวิวาทกันในครั้งนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่ผู้บาดเจ็บเท่านั้นแต่ยังมีผู้เสียชีวิตด้วยซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานไปยังกู้ภัยให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุพร้อมกัน

      เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยเดินทางไปถึงก็พบกับผู้เสียชีวิตมีสภาพเลือดเต็มทางร่างกายโดยเมื่อตรวจสอบจบก็พบว่าที่หัวนั้นถูกตีจนเป็นแผลขนาดใหญ่นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นมีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น

ชื่อว่านายสิทธิศักดิ์โดยผู้ก่อเหตุนั้นเป็นเจ้าของบ้านและเป็น พ่อของเพื่อนผู้เสียชีวิตหลังจากลงมือก่อเหตุแล้วก็ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

       

 จากการให้ข้อมูลของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตและเป็นลูกชายของคนร้ายรวมถึงภรรยาของคนร้ายได้ให้ข้อมูลว่าคนร้ายกับผู้เสียชีวิตนั้นได้มีปากเสียงกันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนกับลูกชายของคนร้ายในวันนี้ทั้งคู่ได้นัดกันมากินเหล้าที่หน้าบ้านระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกินเหล้าอยู่กับลูกชายของคนร้ายอยู่นั้นตัวคนร้ายเองก็ก่อกองไฟเผาขยะอยู่ไม่ห่างจากจุดที่มีการนั่งกินเหล้ากันทำให้ควันไฟลอยมาถึงบริเวณวงเหล้าสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ตาย

         ทำให้ผู้ตายนั้นตะโกนด่าทอไปยังคนร้ายในลักษณะคำพูดเหน็บแนมแต่ก็เป็นลักษณะของคำหยาบคายด้วยเช่นเดียวกันทำให้คนร้ายนั้น ไม่พอใจจึงได้เดินมาตรงจุดที่ผู้ตายกับลูกชายกินเหล้ากันหลังจากนั้นก็มีเรื่องด่าทอกันเกิดขึ้นอย่างไรก็ตามหลังจากที่ทะเลาะกันได้สักพักนึงคนร้ายได้มีการไปหยิบด้ามคราด

ซึ่งเป็นเหล็กมาตีใส่ผู้ตายอยู่หลายครั้งในระหว่างนั้นทางด้านลูกชายและภรรยาของคนร้ายได้พยายามห้ามปรามแต่ก็ถูกคนร้ายใช้ด้ามค่าตีใส่เนื่องจากว่ายังอยู่ในช่วงของการบันดาลโทสะเพราะโมโหมากอาจจะเกิดมาจากเรื่องที่ทับถมจากการทะเลาะกันมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ด้วย

          อย่างไรก็ตามเมื่อตีไปได้สักพักนึงผู้เสียชีวิตก็หน้านิ่งและเมื่อแน่ใจว่าลูกชายของเพื่อนตายแล้วคนร้ายจึงได้มีการขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปยังจุดเกิดเหตุทันทีซึ่งทางด้านลูกชายของคนร้ายและภรรยาของคนร้ายก็ได้รับบาดเจ็บด้วยอย่างไรก็ตามก่อนที่จะเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ได้มีการโทรตามเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังจุดเกิดเหตุด้วยนั่นเอง   จากข้อมูลที่ทางผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลมาทั้งหมดนั้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งเก็บรวบรวมหลักฐานและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี 

 

สนับสนุนโดย  ufabet เว็บหลัก

          เมื่อวันที่ 10 เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565 ได้มีคุณแม่รายหนึ่งได้เล่าเรื่องราวชีวิตครอบครัวของเธอผ่านทาง facebook โดยเรื่องราวที่คุณแม่รายนี้เข้ามาเล่าเป็นการระบายความรู้สึกที่ตนเองได้เจอมา

แม่เศร้าใจ หลังรู้ลูกสาววัย 17  ซึ่งเจ้าของ Facebook รายนี้ระบุว่าตนเองนั้นอยู่กับลูกสาว 2 คนโดยลูกสาวนั้นอายุ 17 ปีส่วนสามีนั้นเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน

           อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าบ้านของเธอนั้นมีฐานะที่ยากจนดังนั้นทั้งตัวเธอเองและลูกจึงจำเป็นที่จะต้องช่วยกันทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเพื่อให้เธอและลูกมีชีวิตอยู่รอดซึ่งตัวเธอนั้นเรียนมาน้อยจึงทำงานเป็นเพียงแค่แม่บ้านวันหนึ่งมีรายได้เพียงแค่วันละ 300 บาทเท่านั้นในขณะที่ลูกสาวของเธอนั้นเธอรู้มาว่าลูกสาวของเธอทำงานด้าน Entertain และยังมีการขายสินค้าผ่านทางออนไลน์

            อย่างไรก็ตามคุณแม่รายนี้ระบุว่าเมื่อไม่นานมานี้คุณแม่เพิ่งรู้ว่าลูกสาวของเธอนั้นไม่ได้ทำงานเป็น Entertain อย่างเดียวแต่ลูกสาวของเธอยังรับขายบริการควบคู่กับงานเอนเตอร์เทนอีกด้วย

ซึ่งหลังจากที่คุณแม่รายนี้รู้ว่าลูกสาววัย 17 ปีของเธอทำงานเป็นสาวขายบริการก็รู้สึกชอบเป็นอย่างมากจึงได้ตัดสินใจพูดคุยกับลูกสาวเพราะเป็นห่วงลูกสาวนั่นเอง 

     ภายหลังจากที่คุณแม่รายนี้ได้คุยกับลูกสาวเกี่ยวกับงานและร้องขอให้ลูกสาวเลิกขายบริการปรากฏว่าลูกสาววัย 17 ปีได้มีการย้อนกลับมาว่าการที่ลูกสาวออกไปขายบริการนั้นเป็นการหาเงินอย่างหนึ่งดีกว่าไปนอนกับผู้ชายฟรีๆโดยที่ไม่ได้เงินมาจุนเจือครอบครัวและเงินที่หามาได้นั้นก็มาช่วยแบ่งเบาภาระของแม่เพราะแม่นั้นได้เงินเดือนวันละแค่ 300 บาทเท่านั้นไม่พอที่จะส่งเสียให้ลูกสาวเรียนหนังสือสูงได้

      อย่างไรก็ตามประโยคที่ทำให้คุณแม่รายนี้รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือการที่ลูกสาวบอกว่าตัวแม่เป็นคนที่โลกสวยมากแต่แม่ก็ควรจะดูด้วยว่าในขณะนี้เศรษฐกิจมันแย่มากแค่ไหนการที่เป็นคนโลกสวยอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปและการเพียงแค่ขายของออนไลน์นั้นก็ไม่เพียงพอที่จะเอามาจุนเจือครอบครัวได้นั่นเอง 

       ภายหลังจากชาวโซเชียลได้เห็นข้อความของคุณแม่รายนี้ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกัน  gclub ทางเข้า ล่าสุด    เป็นอย่างมากซึ่งหลายคนมองว่าความคิดของลูกสาวนั้นเป็นความคิดของคนรุ่นใหม่ที่มองว่าสังคมทุกวันนี้นั้นอยู่ยากและทุกคนต้องปากกัดตีนถีบและในขณะเดียวกันหลายคนก็มองว่าการที่ลูกสาวไปขายตัวนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ

แต่ในเมื่อผู้เป็นแม่ไม่สามารถที่จะห้ามลูกสาวได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้เป็นแม่ก็คือควรจะสอนลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องของการป้องกันตัวเรื่อง Safe sex  ส่วนความคิดที่ว่าถ้าอดออมและประหยัดมีความอดทนมุมานะแล้วจะสบายในอนาคตนั้นใช้ไม่ได้กับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ 

            สาวกลุ้ม สามีไม่มีเงินให้ลูก   เมื่อวันที่ 5 เดือนสิงหาคมปีพศ. 2565 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์เล่าประสบการณ์ของตนเองลงใน Facebook เนื่องจากหญิงสาวรายนี้รู้สึกกลุ้มใจกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างมากโดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าตัวเธอนั้นแต่งงานมาได้ 2 ปีแล้วโดยเธอมีลูก 1 คนซึ่งในขณะนี้อายุ 1 ขวบกว่าแล้ว 

            อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นของหญิงสาวรายนี้ก็คือตลอดระยะเวลาที่แต่งงานกันมาจนถึงปัจจุบันนี้สามีของเธอไม่เคยมีเงินเก็บเป็นเงินออมที่จะเก็บไว้ให้กับลูกเลย

เนื่องจากว่าสามีของเธอนำเงินที่หามาได้ไปเปย์ให้กับคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นตัวน้องชายของสามีหรือแม้แต่พ่อแม่ของสามีก็ตามโดยหญิงสาวรายนี้ได้ยกตัวอย่างว่าถ้าหากน้องชายอยากได้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone สามีของเธอก็ซื้อให้ซึ่งโทรศัพท์เครื่องหนึ่งราคาเกือบ 50,000 บาท

           ในขณะเดียวกันน้องชายอยากได้รถยนต์ส่วนตัวก็ซื้อให้โดยซื้อรถให้ในราคา 1.6 ล้านบาทและสามีของเธอยังได้มีการซื้อบ้านให้กับพ่อแม่อาศัยอยู่หลังละ 2.2 ล้านบาท  หญิงสาวรายนี้ยังระบุอีกด้วยว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยถ้าหากสามีของเธอนำเงินที่หาได้มาเปย์ให้กับเธอและลูกบ้างเนื่องจากว่าในทุกวันนี้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆภายในบ้านกับกลายเป็นว่าเป็นตัวเธอเองที่เป็นคนออกค่าใช้จ่าย

          หญิงสาวรายนี้ยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่าสามีของเธอโอนเงินให้เธอเพียงแค่ 5000 บาทเท่านั้นเพื่อเป็นค่านมให้กับลูกนอกนั้นเธอและลูกไม่ได้เงินจากสามีเลย นอกจากนี้เวลาต่อเติมบ้านสามีของเธอก็ให้ไปเป็นคนออกค่าใช้จ่ายโดยอ้างว่าเขาไม่มีเงิน  และที่พีคมากที่สุดก็คืออาของสามีของเธอยังมายืมเงินเธออีก 200000 บาทแต่เมื่อหญิงสาวรายนี้ให้สามีของเธอทวงเงินคืนให้เพราะเธอไม่กล้าทวงเองปรากฏว่าสามีของเธอกับบอกให้เธอยกเงิน 200000 บาทไปให้กับอาใช้โดยไม่ต้องทวงคืนทั้งที่เงินดังกล่าวนั้นเป็นเงินส่วนตัวที่เธอหามาเอง 

          สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรู้สึกกลุ้มใจเป็นอย่างมากเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดีจึงได้โพสต์ระบายความรู้สึกของตนเองลงในโซเลพร้อมทั้งขอความคิดเห็นคนในโลกออนไลน์ว่าเธอควรจะตัดสินใจทำอย่างไรดีเนื่องจากสามีของเธอนั้นเห็นคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือน้องชายดีกว่าเธอและลูก

          สำหรับความคิดเห็นของชาวโซเชียลนั้นได้มีการแนะนำหญิงสาวรายนี้ให้หย่ากับสามีซะ เพราะจะเห็นได้ว่า สามีของเธอเห็น พ่อแม่พี่น้องสำคัญกว่าเธอและลูกดังนั้นเธอควรที่จะรักตัวเองและลูก  ทวงเงินจากอาที่ยืมไป 20,000 กลับมาและฟ้องร้องให้สามีจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้กับลูกซึ่งชาวโซเชียลเชื่อว่าถ้าหากหญิงสาวรายนี้เลิกกับสามีจะมีเงินเก็บอย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย    www.ufabet.com ลิ้งเข้าเว็บไซต์คะ

             ลูกชายหลงแฟน ยกทรัพย์สิน เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนอย่างเว็บ South China morning Post ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่มีการยื่นเรื่องต่อศาลให้ช่วยพิจารณาพินัยกรรมของลูกชายที่ทำเอาไว้ก่อนเสียชีวิตโดยพินัยกรรมดังกล่าวนั้นได้มีการเขียนยกทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองให้กับแฟนสาวซึ่งทรัพย์สินนั้นมีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านหยวนเลยทีเดียว

        สำหรับเรื่องราวที่เปิดเผยนี้มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 23 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565  เมื่อชายชาวจีนคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น  มณฑลหูเป่ย

ได้เสียชีวิตลงหลังจากนั้นพ่อแม่ของชายหนุ่มรายนี้พบว่าลูกชายได้มีการทำพินัยกรรมก่อนเสียชีวิตยกทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองให้กับแฟนสาวซึ่งทั้งคู่เพิ่งคบหากันได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น 

        อย่างไรก็ตามเมื่อพ่อแม่ของฝ่ายชายทราบเรื่องจึงได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อให้พิจารณาเกี่ยวกับพินัยกรรมใหม่โดยพ่อกับแม่ของฝ่ายชายนั้นยืนยันว่าทั้งคู่ยังไม่ได้จดทะเบียนและแต่งงานกันดังนั้นฝ่ายหญิงจึงไม่สมควรได้รับทรัพย์สินของฝ่ายชายเมื่อเจ้าของมรดกเสียชีวิตจำเป็นที่จะต้องนำมรดกทั้งหมดกลับคืนสู่พ่อแม่

        นอกจากนี้หนึ่งในมรดกที่ลูกชายได้มีการเขียนพินัยกรรมให้กับแฟนสาวนั้นคือบ้านที่ลูกชายอาศัยอยู่ก่อนที่จะเสียชีวิตและบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นพ่อกับแม่ที่เป็นคนออกเงินซื้อให้  ดังนั้นผู้มีสิทธิ์ในบ้านหลังเก่าตามกฎหมายก็ควรจะเป็นพ่อกับแม่ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมโดย

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ศาลได้มีการรับเรื่องและพิจารณาแล้วได้มีการเชิญทั้งสองฝ่ายมาทำการไกล่เกลี่ยกัน

แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้เกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินซึ่งมีการไกล่เกลี่ยกันถึง 5 ครั้งเลยทีเดียวสุดท้ายศาลก็มีคำสั่งออกมาว่าบ้านที่พ่อแม่ของฝ่ายชายมีการยื่นเรื่องต่อศาลนั้นให้มีการคืนให้กับพ่อแม่ของฝ่ายชายส่วนทรัพย์สินอื่นๆไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือแม้แต่เงินสดให้ตกเป็นของแฟนสาวตามพินัยกรรมที่มีการระบุเอาไว้ 

        นอกจากนี้ศาลยังได้มีคำสั่งให้พ่อกับแม่ของฝ่ายชายจ่ายเงินให้กับแฟนสาวของลูกชายตนเองประมาณ 600000 หยวนเพื่อเป็นค่ารักษาทรัพย์สิน   

       หลังจากที่ข้อมูลการตัดสินของศาลถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ผู้คนต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นอย่างมากบางคนมองว่าทรัพย์สินทั้งหมดนั้นควรจะตกเป็นของพ่อกับแม่เนื่องจากเป็นเรื่องของวัฒนธรรมทางสังคมของประเทศจีนซึ่งพ่อแม่นั้นจะได้รับมรดกจากลูกตามกฎหมายหากลูกเสียชีวิตก่อนแต่ในขณะเดียวกันก็มี Social บางส่วนให้ยึดตามพินัยกรรมที่เจ้าของทรัพย์สินได้มีการทำเอาไว้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ดูบอลสด

       สาวสหรัฐเปิดประสบการณ์ซื้อบ้านเก่า บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นว่าทางธนาคารมีการประกาศขายบ้านมือสองซึ่งมีการยึดมาหรือแม้แต่เจ้าของบ้านเองก็ได้มีการขายบ้านหลังเก่าของตนเองไป

      เพื่อย้ายที่อยู่อาศัยหรืออาจจะไปซื้อบ้านหลังอื่นอยู่อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องของการซื้อบ้านหลังเก่าหรือบ้านมือสองนั้นมักจะมีเรื่องเล่าและประวัติลึกลับเยอะแยะมากมาย  ซึ่งถ้าหากว่าใครไม่ได้มีการสืบหาประวัติของบ้านก่อนที่จะมาอยู่อาศัยก็อาจจะต้องเจอกับเรื่องราวสุดน่าสะพรึงกลัวก็ได้เช่นกันโดยในประเทศไทยนั้นมักจะมีประวัติเรื่องเล่าความเป็นมาที่น่ากลัวเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งเร้นลับต่างๆไป

          สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอมาจากนครลอสแองเจลิสได้มีการเปิดเผยเรื่องราวสุดสะพรึงหลังจากที่เธอนั้นได้ซื้อบ้านมือสองมาแล้วต้องพบกับเรื่องราวชวนตะลึงโดยเธอได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวลงใน tiktok เนื่องจากว่าประสบการณ์ซื้อบ้านเก่าบ้านมือสองของเธอนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

           สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวรายนี้เธอได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 เดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2565

โดยเรื่องราวของเธอนั้นเกิดขึ้นเมื่อเธอและแฟนหนุ่มของเธอตัดสินใจไปประมูลบ้านมือสองมาอย่างไรก็ตามบางทีเธอได้มานั้นเป็นบ้านที่เก่าและโทรมมากแล้ว ดังนั้นก่อนเข้าไปอยู่เธอและแฟนหนุ่มของเธอจึงตั้งใจที่จะทำการรีโนเวทบ้านก่อน 

         อย่างไรก็ตามหญิงสาวเจ้าของโพสต์ระบุว่าเธอและแฟนหนุ่มยังไม่ทันได้ย้ายเข้าไปอยู่ก็มีบุคคลลึกลับโทรศัพท์มาบอกกับเธอว่าบ้านที่เธอเพิ่งซื้อไปนั้นมีคนพยายามบุกรุกเข้าไปด้านในซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งบุกเข้ามาภายในบ้านของเธอโดยอ้างตัวว่าเป็นหลานชายของเจ้าของบ้านและต้องการตู้เซฟขนาดใหญ่ที่ถูกจัดเก็บไว้ภายในบ้าน

        นอกจากนี้สาวเจ้าของบ้านยังเห็นได้ว่าตู้เซฟของเธอนั้นมีร่องรอยการถูกนะเนี้ยดังนั้นเธอจึงได้มีการเรียกให้ช่างมาเปิดตู้นิรภัย

เพื่อดูสิ่งของภายในและปฏิเสธไม่ให้ชายหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นหลานชายเจ้าของบ้านเข้ามาภายในบ้านเนื่องจากก่อนที่เธอจะซื้อบ้านเธอได้มีการสืบประวัติมาแล้วว่าเจ้าของบ้านคนเดิมเสียชีวิตโดยที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมทิ้งมรดกไว้ให้กับหลานหรือญาติคนไหน

      อย่างไรก็ตามสิ่งที่หญิงสาวรายนี้นำมาโพสต์ลงในติ๊กต๊อกก็คือสิ่งของที่อยู่ภายในตู้เซฟที่เธอให้ช่างเปิดให้ดูมีข้าวของเครื่องใช้มากมายที่เป็นยุคเก่าแก่โบราณของบางอย่างนั้นเป็นของตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีทั้งเหรียญเก่าและธนบัตรหายากและที่สำคัญยังมีภาพถ่ายของบุคคลเยอะแยะมากมายซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้สามารถไปแบล็คเมล์เรียกเงินได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

        ยังไงก็ตามหญิงสาวเจ้าของโพสต์ระบุว่ายังมีของอีกมากมายหลายอย่างที่เธอไม่สามารถแสดงให้เห็นในติ๊กต๊อกได้เนื่องจากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอเอาไว้เพราะสิ่งที่อยู่ในตู้นิรภัยนั้นมันค่อนข้างอันตรายจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาจัดการ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ufabet

           สำหรับการจัดงานแต่งงานของหญิงสาวคนนึงนั้นเรื่องของชุดเจ้าสาวนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆ

            เนื่องจากว่าในวันสำคัญของผู้หญิงวันนี้หญิงสาวทุกคนอยากจะเป็นคนที่สวยที่สุดในงานดังนั้นจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาทั่วไปหรือแม้แต่ไฮโซเศรษฐีทั้งหลายในงานแต่งงานนั้นมักจะมีการสวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์และเลือกชุดเจ้าสาวที่มีความสวยงามเหมาะกับตนเอง 

          เมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ได้มีร้านเช่าชุดแต่งงานร้านหนึ่งได้มีการอัพเดทข้อมูลลง Facebook ของร้านเปิดเผยเรื่องราวที่มีลูกค้ามาเช่าชุดแต่งงานโดยทางร้านมีการเรียกเก็บค่าเงินมัดจำจำนวน 3,000 บาทและถ้าหากว่านำชุดแต่งงานมาคืนเรียบร้อยแล้วทางร้านก็จะมีการคืนเงินมัดจำดังกล่าวไป 

          สำหรับกรณีการเรียกเก็บเงินมัดจำในการเช่าชุดนั้นไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานหรือชุดอื่นๆก็เป็นที่นิยมหรือเป็นกรดธรรมเนียมของทางร้านอยู่แล้วเพื่อป้องกันที่ลูกค้าเช่าชุดไปแล้วอาจจะทำเสียหายหรือไม่ยอมเอาชุดมาคืนนั่นเองอย่างไรก็ตามเจ้าของเช่าชุดแต่งงานร้านอัญมณีทองได้มีการโพสต์เรื่องราวว่าคู่บ่าวสาวที่มาเช่าชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ออกไป

      เจ้าของร้านชุดแต่งงานเครียด เมื่อจัดงานแต่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้วบางคราวก็นำชุดแต่งงานกลับมาคืนแต่ปรากฏว่าสภาพของชุดที่มีการนำมาคืนให้กับทางร้านนั้นแตกต่างจากตอนที่ยืมไปเป็นอย่างมากเพราะตอนยืมไปนั้นชุดแต่งงานยังคงเป็นสีขาวบริสุทธิ์แต่ตอนที่กลับมาคืนนั้นชุดแต่งงานเหมือนกับมีการย้อมสีใหม่เพราะมันเป็นสีโคลนและทั้งตัวของชุดเจ้าสาวเลยทีเดียว 

         อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านเห็นชุดที่ลูกค้าเช่าไปเสียหายและมีความสุขกับโรคมากทางร้านจึงได้ขอเรียกเก็บเงินค่ามัดจำ 3,000 บาทโดยไม่ยอมคืนเงินค่ามัดจำเพราะลูกค้าเช่าชุดไปแล้วชุดได้รับความเสียหายเส้นทางร้านมองว่าถึงแม้ว่าจะซักใหม่แต่ก็คงไม่สามารถใช้จะซักให้สะอาดเหมือนใหม่เหมือนก่อนหน้าที่ลูกค้าจะมาเช่าไปใช้งานได้แล้ว

        อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือลูกค้าคู่บ่าวสาวที่เช่าชุดไปแล้วทำชุดเจ้าสาวเพื่อนกลับไม่พอใจที่ร้านมีการริบเงินค่ามัดจำต่อว่าทางร้านด้วยความถ้อยคำหยาบคายและยังกล่าวด้วยว่าเสียความรู้สึกกับการบริการของทางร้านเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามทางร้านได้มีการโพสต์ภาพชุดเจ้าสาวที่นำมาคืนให้ชาวโซเชียลได้เห็นเพื่อเป็นการยืนยันกับทางชาวโซเชียลว่าเงิน 3000 บาทที่เรียกเก็บจากเจ้าสาวที่เช่าชุดไปนั้นไม่คุ้มกับชุดที่ต้องเสียหายและไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่อีกอย่างแน่นอน 

           สำหรับเหตุผลที่ทางเจ้าของร้านดีการโพสต์ระบายความรู้สึกอึดอัดใจลองผ่านทาง Social เพจร้านของตนเองนั่นก็เพราะว่าใหญ่ที่จะให้หนุ่มสาวที่กำลังคิดจะไปเช่าชุดกับร้านให้นึกถึงเห็นใจหัวอกคนเป็นเจ้าของร้านบ้างควรจะดูแลชุดที่ชอบไปให้ดีเพราะทางร้านเองก็ไม่ได้อยากเก็บเงินค่ามัดจำแต่อยากได้ชุดเพื่อนำไปให้ลูกค้าท่านอื่นเช่าต่อจะดีกว่าเพราะเงินค่ามัดจำที่ทางร้านเก็บมานั้นไม่พอกับการที่จะต้องไปซื้อชุดใหม่มาแทนชุดเก่าที่เสียหายอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    gclub เว็บตรง

          จากเรื่องราวของเมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 ซึ่งมีคุณยายท่านหนึ่งวัย 70 ปี

ยายวัย 70 ปีกลุ้ม  ลูกชายขโมย ATM  เข้าร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกชายได้มีการขโมยเอา ATM ไปกดเงินสดออกจากบัญชีหายออกจากบัญชีไปแสนกว่าบาทซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าลูกชายได้มีการนำเงินไปโปรยทานให้กับคนในตลาด และบริเวณสี่แยกไฟแดงด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่อำเภอสตึก   จังหวัดบุรีรัมย์ 

         ยังไงก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่รับเรื่องดำเนินการตรวจสอบข้อมูลให้พบว่าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนะลูกชายของคุณยายวัย 70 ปีได้มีการขโมย ATM ของคุณยายไปกดออกมาช่วงเวลาประมาณ 3:00 น ของวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 หลังจากนั้นก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีเพื่อนเป็นคนขับเข้าไปในบริเวณตลาดสดเทศบาลสตึกแล้วมีการควักเงินออกมาแจกจ่ายโปรยลงบนพื้นให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดและคนที่เดินซื้อของในตลาดในช่วงเวลาประมาณ 3:00 น.   ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเห็นหน้าของคนที่เก็บเงินได้หลายคนจึงได้มีการประกาศเตือนไปยังคนที่เก็บเงินว่าให้รีบนำเงินดังกล่าวกลับมาคืนเพราะถ้าหากว่าไม่คืนก็จะถูกแจ้งข้อหารับของโจรนั่นเอง 

         หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศออกไปให้มีคนที่เก็บเงินในบริเวณสี่แยกไฟแดงและบริเวณตลาดสดเทศบาลสตึกนำเงินมาคืนนั้นพบว่าตั้งแต่วันที่ 8 จนถึงวันที่ 9 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2565 มีคนที่นำเงินมาคืนรวมแล้วเพียงแค่ 2900 บาทเท่านั้นยังเหลืออีกแสนกว่าบาทที่ยังไม่มีการนำเงินมาคืนซึ่งทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าถ้าหากไม่มีการนำเงินมาคืนก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเพราะในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเห็นใบหน้าของคนที่เก็บเงินได้บางส่วนแล้ว

        จากการให้ข้อมูลของพ่อค้าที่ขายของอยู่ในบริเวณตลาดสดเทศบาลสตึกซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่นำเงินมาคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าในระหว่างที่มีการตั้งร้านอยู่นั้นเห็นว่ามีคนทำเงินตกอยู่ซึ่งเป็นเงิน 100 บาทจำนวนหลายใบผู้ค้าคนดังกล่าวจึงได้มีการเก็บเงินรวมแล้วทั้งหมด 700 บาทแต่เมื่อจะนำเงินดังกล่าวไปคืนให้ปรากฏว่าสังเกตเห็นว่าเจ้าของเงินนั้นไม่ได้ทำตกแต่มีการหว่านเหมือนลักษณะของการโปรยทานจึงได้มีการเก็บเงินเอาไว้แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประกาศออกมาก็รีบนำเงินมาคืนทันที 

        ยังไงก็ตามคุณยายวัย 70 ปีและมีการตรวจสอบสมุดบัญชีเล่มอื่นพบว่านอกจากเงินออกจากบัญชี 109,000 บาทแล้วยังมีเงินในอีกบัญชีนึงขายออกไปอีก 2 แสนบาทซึ่งจากการสอบถามลูกชายคนเดิมพบว่าเป็นคนขโมยเงินในบัญชีออกไป สองแสน บาทจริงๆด้วยเงินดังกล่าวนั้นได้มีการนำไปซื้อของเพื่อแจกจ่ายชาวบ้านหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งนี้คุณยายรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากตอนนี้คุณยังมีเงินเหลือในบัญชีติดตัวเพียงแค่ 200 บาทเท่านั้นเกรงว่าถ้าหากว่าตนเองตายไปลูกชายคงขายที่ดินขายบ้านขายทุกสิ่งทุกอย่างและนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านอย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย  สล็อต ufabet เว็บตรง

        เมื่อวันที่ 11 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนพบศพทารกแรกเกิดถูกห่อด้วยผ้านำมาวางทิ้งเอาไว้ข้างถังขยะซึ่งอยู่ภายในซอยอยู่รวยจังหวัดสมุทรสาคร   โดยผู้ที่พบทารกคนแรกนั้นได้มาเจอทารกถูกทิ้งตั้งแต่ช่วงเวลาเช้าตรู่และทารกที่ถูกนำมาทิ้งนั้นก็มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์เป็นเพศชายซึ่งในขณะนี้ชาวบ้านกำลังดูแลอยู่

         ตำรวจจับกุมสาวทิ้งลูกทารก อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องจึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทันที

เพื่อที่จะได้หาว่าทารกคนดังกล่าวนั้นเป็นลูกของใครและใครนำทารกมาทิ้งล่าสุด   ในวันเดียวกันนั้นเองช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น  เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถที่จะทราบว่าผู้ที่นำทารกมาทิ้งนั้นเป็นใครและได้มีการเข้าจับกุมทันทีซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเป็นชาวเมียนมาร์อายุ 29 ปีโดยอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งใกล้กับบริเวณที่ทิ้งทารกนั้นเอง  โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวสาวชาวเมียนมาร์นี้ได้จากกล้องวงจรปิดภายในพื้นที่บริเวณดังกล่าวซึ่งสามารถถ่ายเห็นภาพสาวเมียนมาร์อุ้มเด็กทารกมาช่วงเวลาประมาณ 02:00 40 นาทีหลังจากนั้นก็นำมาวางไว้ที่ข้างถังขยะ   

          จากการสอบสวนสาวเมียนมาร์เธอยอมรับว่าทารกคนดังกล่าวนั้นเป็นลูกของเธอเองและพึ่งคลอดออกมาได้ไม่นานและตัวเธอเองนั้นเป็นคนนำทารกไปทิ้งเอาไว้ที่ถังขยะโดยเธอให้เหตุผลในการทิ้งลูกในครั้งนี้ว่าเธอไม่มีปัญญาที่จะเลี้ยงลูกของตนเองเพราะตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวเธอไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูลูกให้ดีได้ที่สำคัญเธอเพิ่งเลิกรากับสามีของเธอไป  เมื่อมีภาวะความเครียดทั้งถูกสามีทิ้งและยังไม่มีเงินใช้จึงทำให้ตัดสินใจคริสตัลนำรูปไปวางไว้ข้างถังขยะเผื่อว่าจะมีใครใจบุญมาเจอลูกของเธอแล้วมารับลูกของเธอเลี้ยง

         อย่างไรก็ตามหลังจากฟังเหตุผลแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงมีการดำเนินคดีกับสาวชาวเมียนมาร์อยู่เหมือน  ufabet สมัครสมาชิก   เดิมส่วนเด็กทารกนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งไปยังสถานดูแลเด็กเล็กให้ช่วยดูแลเบื้องต้นก่อน 

           สำหรับเหตุการณ์ที่แม่คลอดลูกแล้วนำลูกมาทิ้งในถังขยะหรือบางคนนั้นฆ่าลูกให้ตายแล้วนำศพไปทิ้งในถังขยะนั้นเรามักจะพบเห็นกันอยู่เป็นประจำซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปีแล้วถึงแม้จะมีการรณรงค์เกี่ยวกับเรื่องของความพร้อมเมื่อไหร่ค่อยมีลูกแต่ทุกวันนี้ก็ยังคงมีคนที่มีลูก

เมื่อไม่พร้อมและเมื่อคลอดเด็กออกมาก็มีการฆ่าลูกตนเองนำไปฝังบ้างนำไปทิ้งกองขยะบ้างหรือบางคนแม้ไม่ฆ่าก็นำไปทิ้งที่ถังขยะซึ่งเด็กบางคนมาเจอและให้ความช่วยเหลือแต่เด็กบางคนโชคร้ายกว่าจะมีคนมาเจอก็ถูกแมลงถูกสัตว์มีพิษกัดต่อยจนเสียชีวิตแล้วก็มี 

       ผู้ป่วยติดเตียงวัย 82 ปีติด covid เสียชีวิต    เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิช- โดยผู้เสียชีวิตนั้นอายุสูงแล้วดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เดือนเมษายนปีพศ. 2565  

ซึ่งน้องสาวของผู้เสียชีวิตได้เล่าข้อมูลให้กับนักข่าวฟังว่าครอบครัวมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน  โดยผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนอายุมากสุดอายุ 82 ปี

        อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้  คนอื่นๆพากันติดไวรัสโควิตและรักษาอาการจนหายดีอยู่แล้วมีเพียงแค่ผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเนื่องจากว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่ได้ออกไปไหน    อย่างไรก็ตามช่วงประมาณวันที่ 7 เดือนเมษายนปีพศ. 2565

 

ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการหายใจไม่สะดวกและอ่อนเพลียไม่ค่อยกินอาหารซึ่งคนในครอบครัวคิดว่าอาจจะเป็นเพราะโรคประจำตัวกำเริบเนื่องจากผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการป่วยเป็นโรคไตด้วย

         อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าของวันที่ 10 เดือนเมษายน ปีพ.ศ. 2565 ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตนั้นอาการเริ่มแย่ลงคนในครอบครัวจึงได้มีการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่อสมให้ช่วยหาชุดตรวจ ATK  มาให้เพราะอยากจะรู้ว่าเป็นอาการโรคไตกำเริบหรืออาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจก็พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นติดไวรัสโควิด  

         น้องสาวของผู้เสียชีวิตระบุว่าหลังจากที่รู้ว่าพี่ชายของตัวเองนั้นติดเชื้อไวรัสโควิช- เธอก็รีบประสานงานไปยังโรงพยาบาลสิทธิ์ประกันสังคมทันทีโดยมีเพื่อนบ้านช่วยประสานงานให้อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลได้มีการตอบกลับมาว่าให้ญาติของผู้ป่วยนั้นพาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเอง    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย     เนื่องจากว่าทางโรงพยาบาลไม่มีรถที่จะสามารถมารับผู้ป่วยที่บ้านได้ ทั้งๆที่ญาติของผู้เสียชีวิตก็แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแล้วว่าผู้ป่วยนั้นมีโรคประจำตัวและเป็นผู้ป่วยติดเตียง

        นอกจากนี้ทุกคนยังช่วยกันหาติดต่อว่าจ้างหารถเพื่อนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่มีใครที่จะรับผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลเลยหลังจากรู้ว่าติดไวรัสโควิช- เพื่อนบ้านและญาติของผู้ป่วยได้มีการโทรไปที่สายด่วน 1669 แต่ทางเจ้าหน้าที่สายด่วนก็ระบุว่าไม่มีนโยบายที่จะเอารถออกไปรับผู้ป่วยติด covid ไปส่งโรงพยาบาลให้

        อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าทางญาติเห็นว่าผู้ป่วยอาการแย่ลงเรื่อยๆจึงได้โทรไปขอความช่วยเหลืออาสาเส้นได้ให้ช่วยมาประเมินอาการผู้ป่วยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เดินทางมาแต่พบว่าไม่สามารถวัดชีพจรได้เนื่องจากว่าเสียชีวิตแล้วทำให้ครอบครัวของตาวัย 82 ปีไม่พอใจที่ไม่มีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือในการมารับผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลซึ่งถ้าหากว่ามีการส่งผู้ป่วยไปรักษาทันอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้

      คุณแม่ลูกสามสุดช้ำ เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอนำมาเปิดเผยผ่านทางเว็บ ct want เมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคม ปีพศ. 2565

สำหรับปัญหาที่หญิงสาวรายนี้ได้นำมาเผยนั้นเป็นปัญหาภายในครอบครัวซึ่งเธอนั้นรู้สึกเศร้าและเป็นกังวลใจและเธอไม่รู้ว่าเธอจะหาทางออกกับเรื่องนี้ได้อย่างไรจึงได้มาโพสต์ระบายความรู้สึกของตนเองลงในโซเชียล

       สำหรับปัญหาของหญิงสาวรายนี้เธอเล่าว่าเธอแต่งงานและมีลูก  ทั้งสิ้น 3 คนด้วยกันอย่างไรก็ตามเธอเกิดอาการสงสัยว่าสามีของเธอจะนอกใจไปมีผู้หญิงคนอื่นในช่วงที่เธอตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3  เนื่องจากว่าสามีของเธอได้จ้างแม่บ้านมาทำงานบ้านและช่วยเธอเลี้ยงลูก ซึ่งหลังจากที่แม่บ้านหญิงเข้ามาทำงานให้กับเธอปรากฏว่าสามีของเธอก็มีพฤติกรรมที่แปลกไป 

       อย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ได้นำเรื่องราวที่เธอรู้สึกไม่สบายใจไปเล่าให้ครอบครัวของเธอและครอบครัวของสามีฟัง

แต่ทุกคนก็มองว่าเป็นเรื่องที่เธอคิดมากจนเกินไปและสามีของเธอยังคงเป็นคนที่รักเธอและครอบครัวรักลูกๆอยู่และไม่มีทางที่จะนอกใจเธออย่างแน่นอนให้เธอสบายใจซึ่งเธอนั้นก็พยายามไม่คิดมากจนเมื่อถึงเวลาที่เธอคลอดลูกและเธอต้องพักฟื้นอยู่ที่ศูนย์พักฟื้นซึ่งเป็นช่วงเดือนประมาณสิงหาคม  ปรากฏว่าลูกชายของเธอได้เล่าให้เธอฟังว่าเห็นพ่อกับพี่เลี้ยงเด็กกอดกันซึ่งลูกชายของเธออายุเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น 

        เมื่อหญิงสาวรายนี้ได้รับฟังเรื่องราวจากลูกชายจึงได้มีการให้เพื่อนสนิทนำกล้องวงจรปิดไปอาบติดตั้งไว้ภายในบ้านทำให้เธอนั้นได้เห็นพฤติกรรมของพี่เลี้ยงและสามีของเธออย่างชัดเจนโดยเธอเห็นพี่เลี้ยงและสามีของเธอมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งในห้องครัว  ufabet     เรื่องราวที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมากเธอต้องนอนร้องไห้อยู่หลายวันแต่ก็ยังไม่สามารถทำใจได้และยังไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับเรื่องนี้อย่างไรดี

       อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสำหรับใครหลายๆคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ยังตัดสินใจที่จะออกมาจากปัญหาครอบครัวโดยมาใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆของพวกเธอแทนแต่สำหรับหญิงสาวรายนี้เธอได้มีการโพสต์ลงในโซเชียลว่าที่เธอไม่สามารถตัดสินใจได้นั้นก็เพราะว่าสามีของเธอนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มบ่อกุ้งซึ่งตัวเธอเองนั้นไม่ได้มีเงินเพราะหลังจากที่เธอแต่งงานเธอก็ให้สามีเลี้ยงดูมาโดยตลอดและในขณะนี้เธอมีลูกเล็กๆ 13 คนด้วยกันถ้าหากว่าเธอ ตัดสินใจหย่ากับสามีแล้วมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเองเธอก็กลัวว่าจะดูแลลูกๆได้ไม่ดี 

        อย่างไรก็ตามชาวโซเชียลแนะนำว่าหญิงสาวรายนี้ควรที่จะเก็บหลักฐานการเป็นชู้ของสามีของเธอกับพี่เลี้ยงเอาไว้หลังจากนั้นพยายามโอนถ่ายทรัพย์สินของสามีมาเป็นของเธอแล้วค่อยหย่าและทำการฟ้องร้องสามีและชู้อีกทีภายหลัง